แผนผังสถานีขนส่งหมอชิต   สถานีขนส่งผู้โดยสารภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ หมอชิต2 

สถานีขนส่งหมอชิต แบ่งออกเป็น 2 โซน คือ โซนอาคารผู้โดยสารขอออก อยู่ด้านหน้า  และ โซนผู้โดยสารขาเข้า อยู่ด้านหลัง

โซนผู้โดยสารขาออก  (ด้านหน้า)  ออกจากกรุงเทพฯ

อาคารผู้โดยสารขาออก  /  ชั้นล่าง เป็นโซนขายตั๋วรถทัวร์สายเหนือและภาคกลาง  ชั้นบนเป็นโซนขายตั๋วรถทัวร์สายอีสาน

กรณีมาโดยรถแท๊กซี่ บอกว่าไปสายอีสานเขาจะขึ้นทางยกระดับไปส่งด้านบน บอกไปสายเหนือและกลางเขาจะจอดส่งหน้าอาคารผู้โดยสารชั้นล่าง

จากจุดจอดรถจะมีคนเข็นรถเข็นบริการขนสัมภาระ เรียกใช้บริการได้ ค่าบริการ 20 บาท ( ข้อมูลปี 2557 )

โซนร้านอาหารในสถานีขนส่งจะอยู่ทางด้านซ้ายของอาคารผู้โดยสาร ตรงข้ามโซนอาหารมีร้าน7-11 โซนด้านขวาก็มี 7-11 ด้านหน้าซ้ายก่อนเข้าอาคารก็มี

กรณีเดินทางมาโดยรถโดยสารประจำทาง ให้เดินไปตามเส้นจุดสีส้ม

ชานชลาสำหรับขึ้นรถอยู่ด้านหลังอาคาร ใช้ทางออกด้านโซนร้านอาหาร และโซนร้าน7-11 ด้านขวา จะขึ้นรถไปภาคไหนให้ดูชานชลาตามแผนที่

ไปถึงโซนนั้นแล้วให้ดูหมายเลขช่องออกรถในตั๋วรถของท่าน แล้วเดินหาหมายเลขช่องขึ้นรถให้ตรงกับตั๋ว มีบางช่องที่หมายกระโดดไปกระโดดมาไม่เรียงเหมือนชาวบ้าน ก็เดินหา  หาเจอแล้วนั่งรอ จบ ไม่มีไรมากสำหรับโซนผู้โดยสารขาออก

โซนผู้โดยสารขาเข้า  (ด้านหลัง)  เข้ามากรุงเทพฯ   โซนนี้ปัญหาเยอะ อ่านดีๆ

รถทัวร์โดยสารทุกคันทุกเส้นทางจะต้องเข้ามาส่งโดยผู้สารที่ชานชลาผู้โดยสารขาเข้า ดูตามแผนที่ แต่บางครั้งที่การจราจรหนาแน่นรถติดสุดๆ รถทัวร์บางบริษัทก็จะเลี่ยงไปจอดส่งริมถนนด้านหน้าฝั่งผู้โดยสารขาออก

รถตู้ทุกเส้นทางจะจอดเข้าคิวรับผู้โดยสารอยู่บริเวณด้านนี้ จะไปไหนให้เดินดูป้ายเอาไม่ต้องถามใคร

คิวรถแท๊กซี่จะอยู่บริเวณนี้ ดูตามแผนที่

การนัดหมายผู้ที่มารอรับ ให้มารอรับบริเวณชานชลาผู้โดยสารขาเข้า จะมีเก้าอี้ให้นั่งรออยู่หลายจุด แต่ละจุดจะมีหมายเลขชานชลาบอก แต่.. หมายเลขมองจากด้านคนนั่งรอ กับมองจากคนที่ลงรถหมายเลขไม่ตรงกันเพราะตัวเลขบางตัวหลุดร่อนหายไป มึน

สำหรับคนที่เพิ่งเข้ากรุงเทพฯ มาลงสถานีขนส่งหมอชิตครั้งแรกไม่ต้องตกใจ เมื่อลงรถแล้วให้มองไปหาชานชลาสำหรับนั่งรอ ขณะรถเลี้ยวเข้าจอด โซนชานชลาสำหรับนั่งรอจะอยู่ทางขวามือ เมื่อลงรถแล้วไปตั้งหลักที่นั่นก่อน ผู้รับกับผู้รออยู่ตรงไหนก็ค่อยโทรบอกกัน

ห้องน้ำ  จะล้างหน้า จะเข้าห้องน้ำ มีห้องน้ำบริการ ดูตามแผนที่ จุดสังเกตุเมื่อรถเลี้ยวขวาเข้าชานชลา ห้องน้ำจะอยู่อาคารด้านหน้ารถ แล้วจะกระเป๋าจะทำยังไง ด้านหน้าห้องน้ำมีบริการรับฝากกระเป๋า

ความวุ่นวายขณะรถเข้าจอด เมื่อรถจอดลงรถมาเพื่อรับกระเป๋าจะมีคนมารุม แล้วถามว่าจะไปไหน ไม่ต้องสนใจรอรับกระเป๋าให้ได้ก่อน เมื่อได้กระเป๋าแล้วจะมีคนเข็นรถเข็นมาเรียกให้บริการ จะมีคนมาถามว่าไปไหน ไปแท๊กซี่หมั๊ย ไปรถตู้หมั๊ย ให้บอกว่าแฟนมารับ ลูกมารับ เพื่อนมารับ บอกไปเพื่อตัดปัญหา

ถ้าจะไปแท๊กซี่ให้เดินไปด้านหลังของชานชลาผู้โดยสารขาเข้าบริเวณเก้าอี้นั่งรอ ด้านหลังของชานชลาคือคิวรถแท๊กซี่ รถแท๊กซี่จะวิ่งเข้ามาตลอดเวลาเยอะมาก ผู้โดยสารที่ยืนรอก็เยอะด้วย ในช่วงหยุดยาวที่ผู้โดยสารเยอะอาจจะมีแท๊กซี่ไม่เพียงพอซึ่งก็ต้องรอนานหน่อย

ระหว่างนี้จะมีพี่วินมอไซด์มาถามว่าแท๊กซี่หมั๊ย โดยที่เขาจะรับเราไปส่งให้รอขึ้นแท๊กซี่ด้านนอก หรืออาจจะริมถนนด้านหน้าสถานี จะบอกว่าไปก็เสียเงินเสียเวลาเปล่าเพราะช่วงที่ผู้โดยสารมากแท๊กซี่ที่วิ่งหน้าหมอชิตมีน้อยและจะเลือกผู้โดยสาร แล้วก็มีผู้โดยสารท่านอื่นยืนรออยู่ทำให้แท๊กซี่มีตัวเลือกมาก

หากประเมินแล้วว่ารอแท๊กซี่ที่จุดบริการไม่ไหวแนะนำให้เดินไปขึ้นรถเมล์ สายไหนก็ได้ที่กำลังจะออก ขึ้นไปลงห่างจากหมอชิตสัก 1-2 ป้าย แล้วค่อยดักรอเรียกแท๊กซี่

กรณีต้องการเดินทางต่อโดยขึ้นรถเมล์ เมื่อลงรถแล้วให้เดินไปตามเส้นทางสีน้ำเงิน ก็จะถึงสถานีรถโดยสารประจำทาง

กรณีต้องการขึ้นรถตู้ ให้เดินดูป้ายคิวรถตู้ในสถานี จะเรียงรายอยู่ด้านซ้ายของชานชลาที่รถจอด ให้เดินดูด้วยตนเองไม่ต้องถามใคร แต่ถ้าจำเป็นต้องถามให้ไปถามที่จุดประชาสัมพันธ์

ข้อควรระวัง

เมื่อลงรถแล้วมีคนมาถาม มีคนมาคอยให้ความช่วยเหลือพาไปขึ้นแท๊กซี่หรือพาไปขึ้นรถตู้ ให้ปฎิเสธไปบอกญาติมารับ สำหรับผู้ที่เข้ามาครั้งแรกให้ระลึกไว้เสมอว่า ที่นี่ไม่มีใครมีน้ำใจมากมายถึงขนาดอยากช่วยเหลือจนต้องมาคอยถามถึงประตูรถหรอก ดูออกจะใจดีเกินไปจนเกินเหตุ ทางสถานีขนส่งเองก็มีประกาศตามสายปาวๆ ว่า ให้ระวังตัวอย่าหลงเชื่อคนที่มาเสนอบริการต่างๆ ถึงแม้เสียงประกาศกำลังดังอยู่นั้นก็มีคนให้เขาหลอกอยู่ต่อหน้าต่อตา

เข้ากรุงเทพฯ เราต้องรู้ตัวเองอยู่เสมอว่าจะไปไหน ไปยังไง จะไปรถเมล์ แท๊กซี่ หรือรถตู้ ขึ้นรถตรงไหน ไม่รู้ก็ศึกษาจากแผนที่ข้างบน ไม่รู้จริงๆ ก็ถามเจ้าหน้าที่ประขาสัมพันธ์ จุดจอดรถตู้ก็อยู่ข้างๆ จุดลงรถเลย มองหาเดินหาหน่อยก็เจอ จุดจอดรถแท๊กซี่ก็อยู่ใกล้ๆ ด้านหลังชานชลาเดินที่ชานชลามองตรงไปก็เห็นแล้ว จะไปรถเมล์ก็เดินผ่านหน้าห้องน้ำลัดเลาะไปตามทางซึ่งมีทางเดียว ไปตามเส้นทางสีน้ำเงินตามแผนที่ก็ถึงสถานีรถเมล์

ถ้าเราลงรถแล้วเขาถามว่าไปไหน ไปแท๊กซี่หมั๊ย รถตู้หมั๊ย บอกอะไรไปเขาพาไปได้หมด ไม่ใช่เพียงแค่นั้น เขาจะบริการดียิ่งกว่านั้นอีกโดยช่วยหิ้วกระเป๋าให้ด้วย บางที่พอบอกไปว่าจะไปไหนยังไม่ทันได้ตกลงว่าให้เขาพาไปเขาก็ได้ๆๆ ครับตามมาเลย แล้วเขาก็คว้ากระเป๋าเราไป ประมาณว่าหิ้วให้ เดินไม่ทันหรือมีโอกาสก็เดินหายไปเลย แน่ล่ะเราก็ต้องรีบเดินให้ทันกระเป๋าเราถึงแม้ยังไม่ตกลงว่าจะไป เขาก็จะพาเราไปด้านนอกสถานีขนส่งเพื่อไปขึ้นรถตู้ผี หมายถึงรถตู้ที่ไม่มีสายวิ่งตามปกติ เมื่อมาถึงเขาก็ไปซื้อตั๋วเลย ปัญหามันอยู่ตรงที่รถตู้นี้ไม่มีวิน ต้องคอยให้คนเหล่านั้นจับลูกค้ามาให้ ดังนั้นเมื่อเสียเงินซื้อตั๋วแล้วนั่งรอไปเถอะจนกว่าจะเต็ม อีกปัญหาคือค่าตั๋ว คนที่หาลูกค้ามาแล้วบวกค่าตั๋วให้คนพามาแล้ว 50 บาท ตั๋วก็แพงกว่าปกติแต่เราก็ไม่รู้ว่าแพงเพราะเราไม่รู้ว่าจริงๆ ราคามันเท่าไร อีกปัญหาถ้าบังเอิญมันเกิด คือเกิดเหตุร้ายบางอย่างไม่สามารถอ้างอิงเอาผิดใครได้ ต่างกับรถวินถูกกฎหมายเพราะมีหมายเลขกำกับทุกคัน หากมีปัญหาสามารถตรวจสอบได้

กรณีบอกว่าไปแท๊กซี่ เขาก็พาไปขึ้นแท๊กซี่ของพวกเขาซึ่งจอดรถอยู่ เขาจะจอดรอทำไมในเมื่อแท๊กซี่ที่จุดบริการก็ยังมีไม่เพียงพอ เข้ามาเท่าไรก็หมด ที่เขาจอดรถเพราะเขาอาจจะได้มากกว่า เช่นเรียกราคาเหมาไม่กดมิเตอร์ซึ่งราคาแพงกว่าปกติ แล้วยิ่งกว่านั้นบางครั้งเขาวิ่งออกมาด้านนอกที่ไกลจากสถานีแล้วจอดอ้างรถเสีย  จากนั้นเขาก็เรียกแท๊กซี่คันอื่นเรียกเก็บเงินเราแล้วส่งเราขึ้นรถแท๊กซี่คันอื่นต่อโดยเขาตกลงราคาและจ่ายค่ารถให้เราแล้ว เขาก็จะได้ส่วนต่างที่เรียกแพงจากเรา แล้วจากนั้นเขาก็รีบวิ่งกลับมารอเหยื่อรายต่อไป  แล้วที่สำคัญกรณีเด็กผู้หญิงที่เดินทางเข้ากรุงเทพฯ คนเดียวและมาครั้งแรก พอขึ้นแท๊กซี่แล้วบอกว่าที่หมายตามที่ญาติแจ้งมา แต่แท๊กซี่ไม่ไปตามจุดหมาย ดังที่มีข่าวบ่อยๆ  หากจำเป็นต้องใช้แท๊กซี่ไม่ควรใช้บริการแท๊กซี่ที่จอดรอ ควรใช้แท๊กซี่วินของทางสถานีขนส่ง

โชคดี ขอให้เดินทางปลอดภัย