ทัวร์อินเดีย แคชเมียร์ เลห์ ลาดัค  Kashmir Leh Ladakh
Kashmir Leh Ladakh India
แคชเมียร์ เลห์ ลาดัคห์ อินเดีย

โปรแกรมทัวร์แคชเมียร์ตะวันออก ลาดัคห์ - เลห์  5 วัน 4 คืน

าดัคห์ Ladakh  ตั้งอยู่ในแคว้น Jamu & Kashmir หรือ แคชเมียร์ตะวันออก ในเขตประเทศอินเดีย เป็นเมืองพุทธศาสนาเก่าแก่เพียงแห่งเดียวที่เหลืออยู่ในดินแดนอินเดีย ถึงแม้ Ladakh จะอยู่ในประเทศอินเดียแต่อุปนิสัยของผู้คนที่นั่นช่างแตกต่างกับคนอินเดียอย่างสิ้นเชิง ลาดัคห์มีความเหมือนกับ ฑิเบต จนได้ฉายาว่า ฑิเบตน้อย รูปแบบการสร้างบ้านเรือน เจดีย์ วัดวาอารามเหมือนกับย่อฑิเบตมาไว้ที่นี่  ภูมิประเทศล้วนมีความสวยงามตั้งอยู่ในหุบเขาที่ล้อมรอบด้วยเทือกเขาสูงซึ่งปกคลุมด้วยหิมะ เมืองเลห์ คือเมืองหลวงของลาดัคห์ตั้งอยู่บนระดับความสูง 3,500 เมตร เป็นระดับความสูงที่คนพื้นราบอย่างเราพอเที่ยวได้ จุดที่สนใจของ Ladakh คือ ภูมิประเทศที่สวยงาม วัดเก่าแก่ที่สร้างด้วยศิลปะแบบฑิเบตมากมายหลายวัด เช่น วัดเฮมิส  วัดธิคเซย์ Shanti Stupa และยังมีวังเก่าแก่ของกษัตริย์ลาดัคห์ในอดีตเช่น พระราชวังเลห์ Leh Palace , สตอคพาเลซ Stok Palace , พระราชวังเชย์ Shey Palace นอกจากนี้ยังมีความสวยของธรรมชาติอย่างเช่น ทะเลสาบพันกอง  Pangong Tso เป็นทะเลสาบน้ำเค็มที่อยู่สูงที่สุดในโลก และยังมีถนนที่ผ่านช่องเขาที่สูงที่สุดในโลก ถนนที่สูงอันดับ 2 , และอันดับ 3 ของโลก ความโดดเด่นไม่ใช่เพียงแค่สถิติแต่วิวระหว่างเส้นทางเป็นเส้นทางที่สวยงามมากๆ เป็นความสวยงามที่ไม่ต้องเดิน

รายละเอียดโปรแกรม

วันแรก

ออกเดินทางจากกรุงเทพมหานคร สู่ กรุงนิวเดลี New Delhi

10.30 น. ถึงที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ Check in
13.25 ออกเดินทางสู่เมืองนิวเดลี New Delhi ประเทศอินเดียโดย Air India บริการอาหารกลางวันบนเครื่องโดยบริการของสายการบิน
17.25 เดินทางถึงท่าอากาศยานนานาชาติอินทิราคานธี อินเดีย ผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร เดินทางสู่โรงแรมที่พัก
วันที่ 2 

นิวเดลี New Delhi – เลห์ Leh

03.00 ออกเดินทางจากโรงแรมไปสนามบินภายในประเทศ Check in โหลดสัมภาระ
05.20 ออกเดินทางสู่เมืองเลห์ โดย สายการบิน Air Deccan
06.50 เดินทางถึงสนามบิน เลห์ Leh  รถรอรับเดินทางเข้าตัวเมืองเลห์  Check in เข้าสู่ที่พัก พักผ่อนอริยาบทกันเล็กน้อย

รับประทานอาหารเช้า

09.00

เดินทางสู่เมือง Karu พาเที่ยวชม วัดเฮมิส Hemis Monastery เป็นวัดพุทธตันตระนิกายหมวกแดงซึ่งเป็นนิกายดั้งเดิมของศาสนาพุทธ สายทิเบต ถูกสร้างขึ้นในพุทธศตวรรษที่ 17 โดยพระเจ้าเซงกี กษัตริย์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของลาดัก ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ ศาสนาพุทธในอินเดียกำลังล่มสลายเมื่อกองทัพชาวเติร์กได้บุกเข้าสู่อินเดีย ปัจจุบันเป็นที่ประดิษฐานทังคาพระปทุมสมภพซึ่งเป็นของเก่าแก่ที่สำคัญมากสำหรับชาวพุทธตันตระซึ่งจะมีพิธีบูชาทังคาทุกๆ 12 ปี

ออกจากวัดเฮมิสเดินทางสู่ วัดธิคเซย์ Thiksey Monastery  เป็นวัดของนิกายเกลุคปา สร้างอยู่บนเขาด้วยรูปแบบวัดฑิเบต ภายในวัดมีรูปปั้นของพระศรีอารยะเมตไตรย์ 

12.00

รับประทานอาหารกลางวัน

 

ทางมุ่งสู่เมือง Shey ซึ่งเป็นเมืองหลวงเก่าของลาดัคห์ พาแวะชม พระราชวังเชย์ Shey Palace สร้างโดยกษัตริย์ Deldan Namgyal  ก่อสร้างเพื่อเป็นพระราชวังฤดูร้อน ของกษัตริย์แห่งลาดัคห์ ภายในมีรูปปั้นของพระศากยมุณี เมื่ออยู่บนพระราชวังเชย์มองลงมาจะเห็นวิวที่สวยงามมาก

เดินทางกันต่อพาไปชม สตอคพาเลซ Stok Palace แต่ก่อนเป็นพระราชวัง แต่ปัจจุบันเปิดเป็นพิพิธภัณฑ์เก็บสะสมของใช้เครื่องแต่งกายของกษัตริย์ในอดีต

ออกจาก Stok Palace พาไปชม  พระราชวังเลห์ Leh Palace ซึ่งเป็นพระราชวังเก่าที่ตั้งโดดเด่นบนเขาเตี้ยๆ ด้านทิศเหนือของเมืองเลห์ สร้างด้วยรูปแบบฑิเบต ปัจจุบันเปิดเป็นพิพิธภัณฑ์

ตอนเย็นพาไปชม Shanti Stupa ตั้งอยู่บนเนินเขาเตี้ยๆ ทางทิศตะวันตกของเลห์ สันติ สถูป้า เป็นเจดีย์สันติภาพสร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1985 ทำพิธีเปิดโดยองค์ดาไลลามะ ณ จุดนี้เป็นจุดชมวิวที่สวยงาม

18.00 เดินทางกลับที่พัก รับประทานอาหารค่ำ

หลังอาหารออกไปเดินเล่นชมเมืองและชอปปิ้งที่ถนนเมนบาซาร์

กลับที่พัก พักผ่อนตามอัธยาศัย

วันที่ 3

เลห์ Leh –  ถนนสูงที่สุดในโลก 18,380 ฟุต / 5,603 เมตร  Khardung La Pass – เลห์ Leh

07.00 รับประทานอาหารเช้า
เดินเที่ยวชมเมือง เดินเที่ยวตลาด เลือกซื้อสินค้าพื้นเมือง สบายๆ ตามอัธยาศัย
11.30 รับประทานอาหารกลางวัน
12.30 เดินทางสู่เส้นทางรถยนต์ที่สูงที่สุดในโลก 5,603 เมตร เดินทางสู่หลังคาโลกแสนง่ายแม้นั่งหลับก็ไปถึงไม่ต้องลำบากเหมือนทีมปีนเขาเอเวอเรสต์ ถนนจากเลห์ที่ระดับ 3,500 เมตร จะค่อยๆ ไต่ลัดเลาะไปตามไหล่เขาไล่ระดับขึ้นไปเรื่อยๆ ตลอดเส้นทาง 2 ชั่วโมง วิวระหว่างทางมีความสวยงามด้วยเทือกเขาสูงที่มีหิมะปกคลุมอยู่บนยอด จนถึงช่องเขาซึ่งเป็นจุดที่สูงที่สุดในโลก 5,603 เมตร และที่นี่ก็มีสุขาที่สูงที่สุดในโลกไว้บริการด้วย

สมควรแก่เวลา เดินทางกลับ เลห์ Leh

18.00 เดินทางกลับที่พัก รับประทานอาหารค่ำ
วันที่ 4

เลห์ Leh – ทะเลสาบพันกอง Pangong Tso – เลห์ Leh

06.00

รับประทานอาหารเช้า ออกเดินทางสู่ ทะเลสาบพันกอง Pangong Tso เป็นทะเลสาบที่สูงที่สุดในโลก 4,268 เมตร อยู่ติดกับชายแดนด้านทิศเหนือ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4-5 ชั่วโมง เส้นทางที่จะไปทะเลสาบจะต้องผ่านช่องเขา Chang La Pass  เส้นทางรถยนต์ซึ่งอยู่สูงเป็นอันดับ 3 ของโลก ตลอดเส้นทางมีวิวที่สวยงาม เดินทางถึงทะเลสาบ ชมวิว ถ่ายภาพเก็บความสวยงามกันเต็มอิ่ม

บ่าย

รับประทานอาหารกลางวันที่ทะเลสาบ

เดินทางกลับสู่ เมืองเลห์

18.00 ถึงโรงแรมที่พัก รับประทานอาหารเย็นกัน
พักผ่อนนอนหลับกันตามสบาย
วันที่ 5 เลห์ Leh –  นิวเดลี New Delhi- กรุงเทพฯ Bangkok
06.00 รับประทานอาหารเช้า ออกเดินทางสู่สนามบินเลห์
08.50 เดินทางถึง เมืองนิวเดลี New Delhi 

ระหว่างรอนั่งเครื่องกลับ พาเที่ยวชม India Gate ที่เป็นเสมือนสัญลักษณ์ของอินเดียที่สร้างขึ้นเพื่อเป็นเกียรติย์กับทหาร 90,000 คนที่เสียชีวิตจากสงครามโลกครั้งที่ 1

จากนั้นพาเที่ยวชม หอ Qutab Minar เป็นหอสูงเก่าแก่ที่สร้างโดย Qutub ud din Aibak ในปี ค.ศ. 1193 เป็นหอสูง 72 เมตร ส่วนล่างกว้าง 15 เมตร ส่วนบนสุด 2.5 เมตร ภายนอกประดับประดาอย่างสวยงาม สร้างขึ้นเพื่อให้มเหสีได้ขึ้นไปชมวิวแม่น้ำยะมุนา

12.30 รับประทานอาหารกลางวัน
พาไปชม Jama Masjid เป็นมัสยิดที่ใหญ่ที่สุดของอินเดีย สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1656 โดยกษัตริย์ Shah Jahan ( ผู้ที่สร้างทัชมาฮาล ) จามามัสยิด เป็นมัสยิดที่ใหญ่และสวยงาม ภายในมีที่นั่งสำหรับคน 20,000 คน
เวลาเหลือพาชอปปิ้งย่านการค้า JanPath 
19.00 น. รับประทานอาหารค่ำ เดินทางกลับเข้าท่าอากาศยานนานาชาติอินทิราคานธี 
00.50 น. ออกเดินทางจากท่าอากาศยานนานาชาติอินทิราคานธี
06.10 น. เดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพ
อัตราค่าบริการ  ท่านละ 35,000 บาท