ดอยหมด
ดอยหัวหมด
ดอยหัวหมด เป็นยอดเขาหัวโล้นที่ปกคลุมด้วยต้นหญ้าและไม้ทนแล้ง
อยู่ห่างจากตัวเมืองอุ้มผางมาตามเส้นทางบ้านสบห้วยแม่สะมุ้งประมาณ
10 กิโลเมตร
แยกซ้ายเข้าไปตามถนนลูกรังอีก
700 เมตร
จากจุดจอดรถเดินเท้าขึ้นไปชมวิวบนยอดดอยอีกประมาณ
150 เมตร
ภูเขาบริเวณนี้มีหลายดอย
เป็นลักษณะยอดเขาเตี้ยๆ
ที่ไม่มีต้นไม้ใหญ่ปกคลุม
ชาวบ้านจึงเรียกว่ายอดเขาเหล่านี้ว่า
ดอยหัวหมด หรือ
เขาหัวโล้น
ดอยหัวหมดที่เป็นจุดชมวิวมีด้วยกันหลายดอยแต่ละดอยก็หมดๆ
ทุกดอย
แต่ดอยที่หัวหมดที่จะพาไปชมนี้เป็นที่ตั้งของหมุดบอกค่า
GPS ของประเทศไทย
ไม่ได้พาไปดูหมุดแต่พาไปชมวิว
ชมทะเลหมอก
เนื่องจากดอยนี้เป็นเขาหัวโล้นจึงไม่มีต้นไม้มาบดบังสายตา
จึงทำให้ชมวิวได้รอบทิศทาง
ในยามเช้ายังมีวิวพระอาทิตย์ขึ้นและ
ทะเลหมอก ให้ชมด้วย
จากจุดชมวิวบนดอยหัวหมดหากหันมาทางซ้ายก็จะพบหุบเขาที่เห็นสิ่งปลูกสร้างและตึกขาว
ๆ นั่นคือตัวเมือง
อุ้มผาง
ที่อยู่ในแอ่งที่ราบหุบเบื้องล่าง
จุดเด่นของดอยหัวหมดในช่วงฤดูฝน
คือทุ่งดอกไม้สีชมพู
เป็นต้นเทียนดอยที่จะออกดอกสีชมพูดไปทั่วทั้งดอย
ในช่วงเวลานั้นจึงเรียก
ดอยหัวหมด ว่าดอยชมพูด
ยอดเขาหัวโล้นที่มีกระจัดกระจายหลายดอยเป็นดอยโล่งๆ
ที่ปกคลุมด้วยต้นหญ้า
เมื่อดอกเทียนบานจึงทำให้เห็นเป็นสีชมพูปกคลุมไปทั่ว
แต่ถ้าจะให้สวยจะต้องขึ้นไปชมบนยอดดอย
ช่วงที่ดอกเทียนดอยบานอยู่ในช่วงเดือนกรกฎาคม
ถึง สิงหาคม
ในช่วงต้นเดือนกันยายนก็พอมีให้เห็นบ้างเป็นหย่อมๆ
เมื่อพ้นช่วงนี้ไปแล้วก็มีเพียงป่าหญ้าแห้งๆ
กับต้นปาล์มสิบสองปันนาซึ่งเป็นไม้ทนแล้งที่มีมากในบริเวณนี้
จุดเด่นของดอยหัวหมดในช่วงฤดูหนาวคือ
วิวทะเลหมอก
ดอยหัวหมดเป็นดอยที่อยู่ในระดับต่ำ
และเบื้องล่างเป็นหุบเขาดังในภาพ
เมื่อเขาอยู่ระดับต่ำทำให้เห็นทะเลหมอกได้ใกล้ๆ
ซึ่งทะเลหมอกจะเกิดในแอ่งเบื้องล่าง
แต่ภาพที่ถ่ายไม่มีทะเลหมอกเพราะถ่ายในช่วงฤดูฝน
จุดเด่นของดอยหัวหมดในช่วงฤดูร้อน
คือ ป่าดอกเสี้ยว
อ่านว่าดอกเสี้ยว
ไม่ใช่ดอกเสี่ยว
เป็นดอกไม้ตระกูลชงโค
อ้าว.. ไม่รู้จักชงโคอีก
ก็ดอกไม้สีชมพูดที่ปลูกตามริมถนนในกรุงเทพฯ
ไง แต่ดอกเสี้ยวมีสีขาว
เป็นไม้ป่า
จะออกดอกพร้อมเพียงกันในช่วงฤดูร้อนราวเดือนมีนาคม
ทำให้ป่ากลายเป็นสีขาว
สวยแปลกตา
แปลกยังไงไม่บอก
ต้องไปชมเอง
ชมภาพดอยหัวหมดกัน
|