อุทัยธานี  

งานฉลอง ๑๐๐ ปี เสด็จประพาสต้น รัชกาลที่ ๕


แขกผู้มีเกียรติที่มาร่วมงาน

20 สิงหาคม 2549  ค่ำคืนนี้ที่ริมฝั่งแม่น้ำสะแกกรังบริเวณหน้าศาลากลางวังหวัดอุทัยธานีดูคึกคักไปด้วยผู้คนที่ออกมายืนชมเรือโบราณหลายลำที่ประดับไฟระย้าจอดรายเรียงเป็นขบวนอยู่หน้าศาลากลาง  ห่างออกไปทั้งซ้ายและขวาไม่ไกลนักมีดวงไฟลอยเรี่ยผิวน้ำเป็นระยะๆ ดูเหมือนกระทงสาย   เสียงเพลงเห่เรือดังเจื่อยแจ้วมาจากเรือลำหน้า  ถัดมาเป็นเรือลำขนาดย่อมมีชายใส่ชุดทหารมหาดเล็กโบราณยืนถือดาบอยู่เต็มลำ ตามด้วยเรือลำใหญ่ที่มีผู้โดยสารแต่งชุดไทยรัตนโกสินทร์อยู่เต็มลำ มีท่านผู้ว่าจังหวัดอุทัยธานีและรองผู้ว่าและข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ของจังหวัดนั่งอยู่ด้านหน้า ตามไปด้วยเรือของผู้ร่วมงานที่แต่งตัวย้อนยุคอีกสามลำ ขบวนเรือล่องช้าๆ ไปตามลำน้ำสะแกกรังจากหน้าศาลากลางจังหวัดเพื่อไปยังวัดอุโปสถารามหรือวัดโบสถ์ ซึ่งเป็นสถานที่จัดงาน “ ฉลองครบรอบ 100 ปี เสด็จประพาสต้นรัชกาลที่๕ “ วันนี้เมื่อ 100 ปีที่แล้วพระพุทธเจ้าหลวง รัชกาลที่ ๕  ทรงเสด็จประพาสต้นเมืองอุทัยธานี  ( เสด็จประพาสต้นหมายถึง เสด็จประพาสอย่างสามัญ คือไม่ให้มีตราสั่งหัวเมืองให้จัดทำที่ประทับแรม ณ ที่ใดๆ สุดแต่พอพระราชหฤทัยที่จะประทับที่ไหนก็ประทับที่นั่น )   ทรงเสด็จมาทางชลมาค ( ทางเรือ ) มาตามแม่น้ำเจ้าพระยาจนถึงอำเภอมโนรมย์เมืองชัยนาทก็แยกเข้าสู่แม่น้ำสะแกกรังแล้วมาขึ้นที่วัดอุโปสถารามแห่งนี้    ทางจังหวัดอุทัยธานีโดยมีท่านผู้ว่าฯ ปรีชา  บุตรศรี   เป็นแม่งานจัดงานฉลองครบรอบ 100 ปี เสด็จประพาสต้นรัชกาลที่ ๕ ขึ้นเพื่อเป็นการรำลึกถึงพระมหากรุณาทิคุณที่ทรงมีต่อประสกนิกรชาวอุทัยธานี และจะจัดขึ้นทุกปีเพื่อเป็นงานประจำปีของอุทัยธานี


วัดอุโปสถารามหรือวัดโบสถ์  สถานที่จัดงาน เคยที่รับเสด็จประพาสต้น ร. 5 


     ผู้ว่าราชการจังหวัดอุทัยธานี คุณปรีชา  บุตรศรี  กล่าวเปิดงาน

วัดโบสถ์ในค่ำคืนนี้สว่างไสวไปด้วยแสงไฟของการจัดงาน บริเวณหน้าวัดมีแพขนาดใหญ่ที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นแพชั่วคราวสำหรับใช้เป็นพิธีเปิดงาน  มองขึ้นไปบนฝั่งเห็นคนที่มาเที่ยวงานอยู่เป็นจำนวนมาก บ้างก็กำลังสนุกกับภาพยนต์จอใหญ่ที่ลานกว้างด้านขวาของงาน เมื่อขบวนเห่เรือมาถึงต่างก็พากันออกมายืนชมขบวนเรือที่หน้าวัด   เรือลำใหญ่ของท่านผู้ว่าเข้าเทียบแพพิธีได้สักครู่เสียงเพลงเห่เรือเงียบลงเปลี่ยนเป็นเสียงของการกล่าวถึงวัตถุประสงค์ของการจัดงานของประธานจัดงาน และผู้ว่าฯ กล่าวเปิดงาน ผู้คนที่มาร่วมพิธีพร้อมใจกันแต่งชุดไทยโบราณสมัยรัตนโกสินทร์ทำให้บรรยากาศในงานดูคล้ายกับย้อนยุคกลับไปในอดีตเมื่อ 100 ปีก่อน  ดอกไม้ไฟที่สะพานหน้าวัดถูกจุดขึ้นปรากฎเป็นคำว่า “ งาน ๑๐๐ ปี ตามรอยเสด็จประพาสต้น รัชกาลที่ ๕ “  ทางด้านซ้ายของสะพานเป็นม่านดอกไม้ไฟคล้ายสายน้ำตก พลุถูกจุดขึ้นเป็นชุดๆ มีเสียงเฮจากผู้คนบนฝั่งอยู่เป็นระยะๆ  สักครู่งานพิธีเปิดก็เสร็จสิ้น


คุณไตรสิทธิ์  สินสมบูรณ์ทอง  รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุทัยธานี     


                  วงดนตรีพื้นบ้านของโรงเรียน 

ที่ลานกลางแจ้งบนฝั่งมีเวทีสำหรับการแสดงและใช้เป็นเวทีให้เด็กๆ ลูกหลานชาวอุทัยได้แสดงความสามารถและใช้เป็นเวทีแจกรางวัลให้เด็กนักเรียนที่ได้รับรางวัลจากการประกวดกิจกรรมต่างๆ ของจังหวัดเพื่อส่งเสริมให้คนรุ่นใหม่รักและหวงแหนในศิลปะและวัฒนธรรมท้องถิ่น บนเวทีกำลังมีการแสดงการร่ายรำของนักเรียนที่แต่งชุดสวยงามร่ายรำด้วยท่าทางที่อ่อนช้อย ถึงแม้อุทัยจะเป็นเพียงจังหวัดของภาคกลางจังหวัดหนึ่งแต่ก็มีความหลากหลายด้านวัฒนธรรมที่ผสมผสานกับระหว่างชาวไทยพื้นถิ่นและชาวลาวเวียง หรือลาวเวียงจันทน์ที่อพยพเข้ามาอยู่ที่อุทัยตั้งแต่ตอนต้นสมัยรัตนโกสินทร์ โดยการเข้ามาอยู่นั้นได้รวมตัวกันอยู่เป็นชุมชนและยังคงรักษารูปแบบวัฒนธรรมของตนเองไว้ได้เป็นอย่างดี ในเมืองย่านการค้าก็มีชาวจีนอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก ศิลปะการแสดงต่างๆ ที่มาจากชุมชนชาวลาวเวียงก็มีรูปแบบที่เป็นเอกลัษณ์ ในเขตที่เป็นที่อยู่อาศัยของคนไทยพื้นถิ่นก็มีรูปแบบศิลปะอีกแบบหนึ่ง  มิใช่จะเพียงแค่ศิลปะและวัฒนธรรม แต่ยังมีการผสามผสานของเชื้อชาติของผู้คนที่อาศัยในอุทัยที่มีทั้งชาวลาวเวียงจันทน์แท้ๆ ชาวไทยพื้นถิ่น ชาวจีน
ในงานคราคร่ำไปด้วยชาวบ้านหนุ่มสาวผู้เฒ่าผู้แก่ที่พากันมาเที่ยวงานเป็นจำนวนมาก เมื่อหลายปีก่อนเพื่อนผมชวนมาเที่ยวอุทัย ( เจ้าของเวบ uthainet.com )  ตอนนั้นเขาก็โม้ว่าคนอุทัยทั้งสวยทั้งหล่อ ดาราสวยชื่อนั้นชื่อนี้ก็เป็นชาวอุทัย ผมก็ฟังๆ ไปงั้นไม่เชื่อหรอก บ้านผมอยู่อ่างทองก็ไม่ได้ไกลไปจากอุทัยมากนัก หน้าตาเป็นอย่างไรก็พอรู้ ก็คงไม่ทิ้งกันกันเท่าไร  แต่เมื่อได้มาเที่ยวอุทัย ได้มาอยู่ที่งานวัดท่ามกลางชาวบ้านจริงๆ ก็ทำให้คิดถึงเจ้าเพื่อนคนนั้นว่าที่เค้าพูดนั่นน่ะ จริง  หนุ่มๆ  สาวๆ อุทัยหน้าตาดีซึ่งผิดคาดอย่างที่เคยคิด ผมเดินไปเดินมาชำเลืองมองดูคนโน้นทีคนนี้ที บางคนก็มองแล้วมองอีก ก็มองเพื่อเป็นการศึกษาหาความแตกต่างกันของผู้คนในภูมิภาคต่างๆ ของไทยซึ่งผมก็ไปมามากมายหลายจังหวัดจนมองเห็นถึงความแตกต่าง เรียกว่าเห็นหน้าแล้วแทบจะเดาได้ถูกว่ามาจากไหนถึงแม้ไม่ถูกก็เฉียดๆ  มัวแต่เดินดูคนเสียเพลินมองขึ้นไปบนเวทีการแสดงเค้าไปถึงไหนแล้ว  ลูกหลานชาวอุทัยขึ้นเวทีแสดงให้คนรุ่นหลังได้รับรู้ว่าพวกเค้าก็มีความสามารถและช่วยสืบสานวัฒนธรรมที่คนรุ่นเก่าได้สร้างไว้เป็นอย่างดี ชุดแล้วชุดเล่าผลัดเปลี่ยนกันขึ้นเวที มีคั่นรายการด้วยการที่ท่านผู้ว่าฯ ขึ้นเวทีแจกรางวัลนักเรียนที่ชนะการประกวดในกิจกรรมต่างๆ ที่ทางจังหวัดจัดขึ้น 


คุณปรีชา  บุตรศรี   ผู้ว่าราชการจังหวัดอุทัยธานี 


มอบรางวัลแก่นักเรียนที่ชนะการประกวดภาพวาด

สักครู่การแสดงชุดต่อไปก็เริ่มแสดงต่อสลับกับการประกวดการแต่งกายชุดไทยย้อนยุคสมัยรัตนโกสินทร์ มีหน่วยงานส่งเข้าเดินแบบประกวดถึง 36 คู่ มาจาก อบต ต่างๆ ของจังหวัดอุทัย แต่ละคนล้วนแต่งกายด้วยผ้าทอที่มีลวดลายสวยงามซึ่งเป็นเอกลักษณ์เฉพาะและเป็นงานฝีมือที่ถือว่าเป็นความสุดยอดของจังหวัดอุทัยที่น้อยคนจะรับรู้  พูดถึงผ้าทออุทัย  จังหวัดอุทัยมีกลุ่มทอผ้าหลายกลุ่มซึ่งส่วนใหญ่เป็นกลุ่มชาวบ้านลาวเวียง หรือลาวเวียงจันทน์แท้ๆ ที่ไม่ทิ้งศิลปะของตนเอง ในบรรดากลุ่มทอผ้าแต่ละกลุ่มนั้นยากที่จะบอกว่าใครผลิตผลงานได้สวยกว่าใครหรือใครเด่นกว่าใครเพราะทั้งหมดนั้นก็เป็นกลุ่มลาวเวียงเหมือนกันซึ่งมีรูปแบบศิลปะที่คล้ายๆ กัน แต่มีอยู่กลุ่มหนึ่งได้ส่งผลงานเข้าประกวดผ้าฝ้ายโลก และได้รับรางวัลที่ 1 ของโลกจาก UNESCO เมื่อปี 2542 ที่หนึ่งของโลกนะครับ นอกจากนี้ยังได้รับรางวัลระดับประเทศ ระดับจังหวัด อีกเกือบ 200 รางวัล ( สองร้อยรางวัล )  ไว้ว่างๆ จะนำเสนอให้ชมกัน มองเห็นผ้าสวยๆ ที่คนเดินแบบใส่แล้วก็คิดไปถึงเรื่องผ้าทออุทัย  
  กลับมาชมการเดินแบบบนเวทีกันต่อ นายแบบนางแบบมีตั้งแต่หนุ่มหล่อสาวสวย ที่ อบต ส่งเป็นตัวแทนขึ้นประกวด และนายแบบนางแบบรุ่นอาวุโสที่เป็นผู้หลักผู้ใหญ่ในหน่วยงามท้องถิ่น  ขึ้นเดินแบบอวดการแต่งกายแบบย้อนยุค    สักครู่คณะนางรำของนักเรียนก็ขึ้นแสดงกันต่อ  กำลังเพลินกับลีลาร่ายรำที่อ่อนช้อยและหน้าตาที่น่ารักของน้องๆ จู่ๆ มือถือก็ดังขึ้น  “เฮ้ยเสก ยังไม่กลับอีกเหรอ ผมรอกุญแจเข้าห้องอยู่ตั้งนานแล้ว กลับมาก่อน ” เสียงพี่บัดดี้ร่วมห้องโทรมาตาม  กลับอะไรล่ะพี่ ผู้ว่าฯ และผู้หลักผู้ใหญ่ของอุทัยธานียังนั่งอยู่ครบ ผู้ชมก็นั่งอยู่เต็มที่นั่งหน้าเวที น้องๆ บนเวทีก็ร่ายรำกันอย่างสวยงาม เฮ้อ.. เสียดายต้องรีบกลับที่พักเลยดูไม่ทันจบไม่ได้อยู่ถึงพิธีการมอบรางวัล

คืนนี้นอนดึก หลับสบาย ตื่นสาย เจ้ามือถือเครื่องเดิมไม่ยอมปลุกทำให้ไม่ได้ไปเที่ยวตลาดเช้า เพื่อนๆ กลุ่มที่ได้ไปเดินเที่ยวตลาดเช้าต่างเม้าท์กันถึงความน่าสนใจที่ตลาด และความอร่อยของขนมในตลาด และเม้าท์กันถึงโจ๊กที่อร่อยที่สุดของอุทัย  แล้วที่โดดเด่นคือขนมปังระเบิดที่ไม่ควรพลาดเมื่อไปเดินตลาดเช้า ไว้คราวหน้าไม่พลาดแน่   เมืองอุทัยเป็นเมืองเงียบๆ  เงียบจนนักท่องเที่ยวไม่รู้ว่ามีของดีอะไรบ้างนอกจาก วัดท่าซุง และประเพณตักบาตรเทโว  ว่างๆ จะนำมาเสนอให้ได้ชมกันรับประกันว่าน่าสนใจและน่าไปเที่ยวแน่นอน

ชมภาพบรรยากาศในงาน  ---> คลิกที่นี่

ข้อมูลการเดินทาง  ที่พัก ร้านอาหาร  จะนำเสนอเร็วๆ นี้

ขอขอบคุณ

ผู้ว่าราชการจังหวัดอุทัยธานี  คุณปรีชา  บุตรศรี   เจ้าภาพจัดงาน

คุณไตรสิทธิ์   สินสมบูรณ์ทอง  รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุทัยธานี  มัคคุเทศก์กิตติมาศักดิ์พาเที่ยวเมืองอุทัย

คุณจักกฤช  ศีลาเจริญ  นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวอุทัยธานี  ( จ้าของห้วยป่าปกรีสอร์ท )  อำนวยความสะดวกตลอดงาน

ท่องเที่ยวไทยเป็นหมู่คณะ เฉพาะกลุ่มของท่าน  8 -16 ท่าน  กำหนดวันเดินทางตามความสะดวกของท่าน

Copyright © 2005 Tourdoi.com All Rights Reserved.