องค์ประกอบต่างๆ
ที่ควรรู้เพื่อการใช้กล้อง
กล้อง...เป็นหัวใจของการถ่ายภาพ
ดังนั้นถ้าเราต้องการถ่ายภาพให้ภาพที่ได้ออกมามีสีสรรสวยงาม
เราจะต้องเรียนรู้วิธีการใช้กล้องให้ถูกต้อง
หวังว่าเพื่อนๆ
คงมีกล้องแล้วคนละ 1 ตัว
ต่างคนต่างยี่ห้อ แต่ว่าฟังชั่นการทำงานหลักๆ
เหมือนกันทุกประการ
ผมขอยกตัวอย่างจากกล้อง SLR
แบบแมนนวล
ที่ค่อนข้างจะมีปุ่มปรับที่เด่นชัด
ส่วนกล้องออโตโฟกัสถึงแม้จะมีรูปทรงที่แตกต่างกันไป
ปุ่มปรับต่างๆ คล้ายปุ่มเกมส์กด
แต่ผลของการปรับก็เหมือนกัน
เปรียบเทียบได้กับ TV
รุ่นก่อนๆ
ที่เปลี่ยนช่องโดยใช้วิธีการหมุนปุ่มบิด
เวลาจะเปลี่ยนช่องกันทีก็ต้องหมุนปุ่มลูกบิดดังดังแป๊กๆๆ
เพื่อเปลี่ยนช่อง ส่วน TV
รุ่นใหม่ใช้วิธีการปรับเปลี่ยนช่องโดยการกดปุ่มหรือไม่ก็ใช้กดปุ่มรีโมท
ไม่ว่าจะเปลี่ยนช่องด้วยวิธีไหนผลที่ได้ออกมาก็เหมือนกันคือได้ดูในช่องที่ต้องการจะดู
กล้องก็เหมือนกันมีการออกแบบให้เข้ายุคเข้าสมัยแต่จุดสุดท้ายก็ปรับไปค่าๆ
เดียวกันซึ่งให้ผลการถ่ายภาพออกมาสวยงามอย่างที่ตาเห็น
ภาพเกิดจากแสงที่ตกกระทบลงบนแผ่นฟิล์ม
แล้วเกิดเป็นภาพต่างๆ
ตามความเข้าของสี
ถ้าหากแสงเข้ามากเกินไป
ภาพก็จะสว่างมากจะมองไม่เห็นรายละเอียด
เราเรียกว่าภาพโอเวอร์ (
over expossure )
ตัวอย่างภาพ
over ( แสงมากเกินไป )
ถ้าแสงน้อยเกินไปภาพก็จะมืดสีไม่สวยงามดำๆ
ไม่สวย เราเรียกว่าภาพอันเดอร์
( under expossure )
ตัวอย่างภาพ
under ( แสงน้อยเกินไป )
ตัวอย่างภาพ
แสงพอดี
กล้องมีการปรับปริมาณแสงที่จะตกกระทบลงบนแผ่นฟิล์มได้
2 วิธีคือ
ปรับความเร็วชัตเตอร์
และ ปรับขนาดรูรับแสง
ความเร็วชัตเตอร์
คือความเร็วในการเปิด
ปิด ช่องรับแสง
ตัวที่ทำหน้าที่ในการเปิดและปิดกั้นแสงที่จะเข้าไปโดนฟิล์มคือม่านชัตเตอร์
ลองเปิดฝาหลังกล้องออก (
เหมือนเวลาใส่ฟิล์ม )
แล้วลองกดปุ่มถ่ายภาพดู
จะเห็นแผ่นบางๆ
เคลื่อนที่ขึ้นลงอย่างรวดเร็วจนมองไม่ทัน
ตัวที่เคลื่อนที่ขึ้นลงเพื่อเปิดปิดกั้นแสงนี้คือม่านชัตเตอร์
ระยะเวลาสั้นๆ ในการเปิด-ปิดนั้น
จึงเรียกว่าความเร็วชัตเตอร์
หรือ Speed
ในภาษากล้องเป็นที่เข้าใจกันว่าหมายถึง
ความเร็วในการเปิดปิดแสงของม่านชัตเตอร์
Speed มีตั้งแต่ช้าจนถึงเร็ว
เช่นปล่อยให้แสงเข้ากล้องเป็นเวลา
1 วินาที ,ครึ่งวินาทีหรือ ½
วินาที ,ครึ่งของครึ่งวินาทีหรือ
¼ วินาที , 1/8 วินาที ->ไปจนถึง
1/500 วินาที , 1/1000 วินาที , 1/2000 วินาที
, 1/4000 วินาที
และสูงสุดในปัจจุบันที่ 1/8000
วินาที หรือเข้าใจง่ายๆ ว่า
ถ้าเราแบ่งช่วงเวลา 1
วินาทีออกเป็น 8000 ส่วน
ความเร็วขนาดนี้ไวมากเพียงเศษของ
1 ใน 8000 ส่วนนั้น
เร็วจนสามารถหยุดหัวลูกปืนที่ยิงออกไปจากกระบอกปืนได้
ทั้งๆ
ที่ตาเราไม่สามารถมองเห็นได้
(
ถ้าคงเห็นได้หากใครยิงเราก็คงหลบทันซินะ
)
วิธีการเขียนแบบเศษส่วนนี้ดูแล้วก็ชวนเวียนหัวดังนั้นจึงเขียนใหม่ให้เข้าใจง่ายๆ
และใช้พื้นที่เขียนน้อย คือ 1,
2, 4, 8, 15, 30, 60, 125, 250 , 500, 1000, 2000, 4000, 8000 และ B (
นานเท่าที่ใจเราต้องการ )
ดังนั้นเมื่อเห็นตัวเลขมากขึ้นอย่าเข้าใจว่ายิ่งช้าลง
เพราะตัวเลขนั้นย่อมาจากเศษส่วนใน
1 วินาที
บางรุ่นก็สามารถเปิดได้นานถึง
30 วินาที จนเร็วที่สุดถึง 1/8000
วินาที ปกติก็จะอยู่ระหว่าง
1-2000 วินาที
ซึ่งเร็วเพียงพอแล้วสำหรับการถ่ายภาพแบบธรรมดา
การปรับความเร็วชัตเตอร์
กล้อง SLR แมนนวล
ปรับโดยการหมุนแป้นปรับบนตัวกล้อง
***หมายเหตุ
ตัวเลขจะเพิ่มขึ้นเป็นขั้นละ
2 เท่า ระว่าง 1
ขั้นที่เพิ่มขึ้นเราเรียกว่า
1 stop
ม่านชัตเตอร์เปิด-ปิดช้าหรือเร็วมีผลอย่างไรต่อปริมาณแสง
พูดถึงแสงอาจจะทำให้เข้าใจยากเพราะมันไม่มีปริมาณให้เราสัมผัสได้
ขอยกตัวอย่างที่เข้าใจง่ายกว่าคือ
น้ำ
ถ้าเราใช้สายยางต่อจากก๊อกน้ำแล้วรองใส่ถัง
ถ้าเราเปิดก๊อกนาน 1 วินาที
ย่อมมีน้ำน้อยกว่าการเปิดก๊อกนาน
30 วินาที แสงก็เช่นเดียวกัน
ถ้าเปิดให้แสงผ่านนานๆ
แสงก็จะไปสะสมบนแผ่นฟิล์มมาก
ถ้าหากเราต้องการปริมาณน้ำมากๆ
แต่ก๊อกน้ำเราเล็ก
เราก็คงต้องเสียเวลารอนานจนกว่าน้ำจะมีปริมาณตามที่เราต้องการ
แล้วยิ่งถูกกำหนดไว้ด้วยว่าห้ามเปิดนานเกินช่วงเวลาที่กำหนด
เราจะต้องทำอย่างไรเพื่อให้น้ำมีปริมาณเพียงพอในเวลาที่จำกัดไว้
นั่นก็คือเปลี่ยนก๊อกน้ำให้ใหญ่ขึ้น
ยิ่งใหญ่น้ำยิ่งไหลมากขึ้นเต็มถังเร็วขึ้น
ขนาดของก๊อกก็เปรียบเสมือน
ขนาดของรูรับแสง
รูรับแสง
ขนาดของช่องที่ปล่อยให้แสงผ่านเข้าไปในเลนส์เพื่อรอการเปิดม่านชัตเตอร์ปล่อยให้แสงตกลงบนแผ่นฟิล์ม
คือ ขนาดรูรับแสง
ตัวที่ทำหน้าที่ในการปรับขนาดความโตของรูที่แสงจะผ่านคือกลีบแผ่นโลหะในกระบอกเลนส์
มีลักษณะเป็นแผ่นพระจันทร์เสี้ยวหลายๆ
แผ่นวางเหลื่อมล้ำกัน
เมื่อเราปรับขนาดตัวเลขบนกระบอกเลนส์
( เลนส์แมนนวล
ไม่ใช่เลนส์ออโตโฟกัสนะ )
ก็จะทำให้ระบบกลไกลไปกดไปดันให้แผ่นที่ว่านั้นเปิดเป็นช่องเล็กๆ
ทำให้แสงผ่านไปได้
ถ้าหากมีกล้องอยู่ในมือให้ลองเปิดฝาหลังออก
แล้วปรับความชัตเตอร์ไปที่ B
แล้วส่องกล้องไปยังพื้นที่สว่างๆ
แล้วกดปุ่มถ่ายภาพ
จะเห็นช่องรับแสงที่เราปรับไว้
ขนาดดูรับแสงมีขนาดต่างๆ
ดังนี้คือ f 1.4 , 1.8 , 2.0 , 3.5, 4.5 , 5.6 , 8, 11, 16, 22
ตัวเลขดังกล่าวอาจจะทำให้สับสน
ตัวเลขดังกว่ายิ่งมีค่ามากรูรับแสงยิ่งแคบ
จากตัวเลขทั้งหมดนี้ f1.4
มีขนาดช่องรับแสงที่กว้างที่สุด
และ f22 มีขนาดแคบที่สุด
เพื่อทำความเข้าใจกับขนาดรูรับแสง
ลองปรับขนาดรูรับแสงบนกระบอกเลนส์แล้วกดปุ่มถ่ายภาพดู
จะเห็นขนาดของรูรับแสงที่มีขนาดแตกต่างกัน
ความเร็วชัตเตอร์ก็ต้องปรับ
ขนาดรูรับแสงก็ต้องปรับ
แล้วจะปรับกันอย่างไร
เมื่อไรจะรู้ได้ว่าแสงพอดี
อ่านแล้วชักเวียนหัว
ไม่ยากเลยสำหรับการปรับค่าตัวแปรทั้งสองนี้
ตัวที่จะบอกเราได้ว่าปริมาณแสงพอดีหรือยังคือ
เครื่องวัดแสงในตัวกล้อง
บางรุ่นที่เก่าๆ
จะเป็นเข็มเคลื่อนที่ขึ้นลง
ไปทางบวกแปรว่าแสงมากไป
ลงมาทางลบแปรว่าแสงน้อยไป
ต้องปรับให้อยู่ระหว่างกลางพอดี
บางรุ่นจะแสดงเป็นไปหรี่จะบอกปริมาณแสงด้วยความความอ่อนแก่ของสี
จุดกลางสุดเป็นจุดที่แสงพอดี
ขึ้นไปเป็นแสงมากไป
ต่ำลงมาเป็นแสงน้อยไป
ลองมองแล้วสังเกตแล้วจะรู้เอง
สำหรับมือใหม่ที่ถ่ายด้วยมือควรปรับความเร็วชัตเตอร์ไว้ไม่ต่ำกว่า
60 ถ้าช้ากว่านี้
เวลาถ่ายแล้วมือไม่นิ่งอาจจะทำให้ภาพไหวได้
ถ้าจำเป็นต้องถ่ายด้วยความเร็วที่ต่ำกว่านี้ควรใช้ขาตั้งกล้อง
รู้การปรับทั้งสองอย่างไปแล้ว
เราก็ยังไม่สามารถถ่ายรูปได้
ก่อนอื่นเราจะต้องใส่ฟิล์มและปรับตั้งค่าความไว้แสงฟิล์มเสียก่อน
การปรับค่าความไวแสงฟิล์ม
ฟิล์มที่มีขายในท้องตลาดมีคุณสมบัติในรับการแสงแต่งต่างกันตามความเหมาะสมในการใช้งาน
ค่าที่ต่างกันคือค่าความไว้แสง
ดังนั้นเมื่อเราใส่เราฟิล์มเราจะต้องปรับตั้งค่าความไว้แสงของกล้องให้ตรงกับค่าความไวของฟิล์ม
ถ้าตั้งค่าผิดไป
กล้องก็จะวัดแสงผิด
ฟิล์มในท้องตลาดจะมีค่าความไวแสงดังนี้
50, 100, 200, 400, 800
.
ฟิล์มสีที่เราใช้ถ่ายภาพทั่วไปคือ
ความไว 100 หรือ ISO100
เราก็ต้องปรับค่า ISO
ของกล้องให้เป็น 100
โดยการปรับปุ่มเดียวกันกับปุ่มปรับความเร็วชัตเตอร์
แต่ต้องดึงปุ่มนั้นขึ้นมาหนึ่งจังหวะแล้วหมุนเอาตามความต้องการ
แต่ถ้าหากเราไม่ดึงปุ่มที่ว่านั้นขึ้นมาก็จะกลายเป็นหมุนปรับเปลี่ยนความเร็วชัตเตอร์
ก่อนถ่ายภาพแต่ละครั้งอย่าลืม
ปรับความชัดของภาพด้วย
โดยการหมุนที่กระบอกเลนส์
ของง่ายๆ
ลองดูแล้วจะรู้ได้เอง
บนกระบอกเลนส์จะมีวงแหวนที่หมุนได้อยู่
3 วง ในสุดคือ
หมุนปรับขนาดรูรับแสง
วงกลางคือซูมภาพให้ได้เล็กใหญ่ตามต้องการ
วงนอกสุดคือหมุนปรับความชัดของภาพ
ตัวเลขสีขาวคือระยะห่างมีหน่วยเป็นเมตร
สีเหลืองมีระยะห่างเป็น ฟุต
ให้ผู้ถ่ายเลือกใช้เอาเอง
|