ทัวร์ดอย

 

หน้าแรกทัวร์ดอย      โปรแกรมทัวร์      ภาพท่องเที่ยว      โรงแรม รีสอร์ท ที่พักทั่วไทย      อุทยานแห่งชาติ      แผนที่ทั่วไทย      ติดต่อทัวร์ดอย

อุทยานแห่งชาติ ภูกระดึง    สถานที่ท่องเที่ยวจังหวัดเลย

ภูกระดึง  สถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตของจังหวัดเลย ในแต่ละปีมีนักท่องเที่ยวขึ้นไปท่องเที่ยวกันเป็นจำนวนมากโดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงฤดูหนาวจะมากเป็นพิเศษกว่าช่วงอื่นๆ  จุดเด่นของภูกระดึงอยู่ที่ความหนาวเย็นและลักษณะภูมิประเทศที่มีความโดดเด่นสวยงาม ภูกระดึงมีลักษณะเป็นภูเขายอดตัดมีรูปร่างคล้ายใบโพธิ์เหมือนดังในภาพด้านล่าง กว้างสุดแนวทิศตะวันออกสุดที่หลังแปถึงแนวทิศตะวันตกสุดที่ผาหล่มสักระยะทาง 10.52 กิโลเมตร กว้างสุดเหนือ-ใต้ระยะทาง 8.45 กิโลเมตร รวมแล้วพื้นที่ราบบนยอดภูมีพื้นที่กว้างใหญ่ถึง 36,350 ไร่ หรือประมาณ 57.6 ตารางกิโลเมตร บนพื้นที่ราบที่กว้างใหญ่นี้ถูกปกคลุมไปด้วยทุ่งหญ้าและป่าสนเขา มีทั้งสนสองใบและสามใบที่มีลักษณะลำต้นและทรวดทรงกิ่งก้านที่สวยงาม ยิ่งคราใดที่เมฆปลิวมาชนยอดภูสายหมอกปกคลุมไปทั่วก็จะเป็นภาพที่สวยงามและโรแมนติก  ทุ่งหญ้าที่ปกคลุมอยู่เบื้องล่างก็มีดอกที่สวยงามทยอยออกดอกต่างช่วงต่างเวลาให้นักท่องเที่ยวได้ชื่นชม เช่น ดอกหญ้าข้าวกล่ำ จรัสจันทร์ กุง เอนอ้า ดอกหงอนนาค สร้อยสุวรรณา หญ้าจิ้มฟันควาย ต้นหม้อข้าวหม้อแกงลิง จอกบ่วาย ว่านมหาเมฆที่บานใช่วงฤดูฝน และอีกมากมายหลายชนิดเรียกได้ว่าที่นี่เป็นสวรรค์น้อยๆ ของผู้ที่ชื่นชอบการถ่ายภาพดอกไม้แบบมาโคร์เลยก็ว่าได้

 

พื้นที่ทุ่งหญ้าและป่าสนนี้นอกจากจะให้ความสวยงามเป็นธรรมชาติกับภูกระดึงแล้วยังเป็นพื้นที่รับน้ำฝนที่กว้างใหญ่อีกด้วย น้ำฝนที่ตกลงมาจะถูกป่าหญ้าซับน้ำเป็นทุ่งหญ้าที่ชื้นแฉะจากนั้นก็ค่อยๆ ปล่อยน้ำไหลลงไปยังพื้นที่ลาดต่ำ พื้นที่ราบบนภูกระดึงมีความลาดเอียงเล็กน้อยคือจากทิศตะวันออกไปสู่ทิศตะวันตกระยะทางกว่า 10 กิโลเมตรมีความลาดเอียงเพียง 80 กว่าเมตร ดังนั้นพื้นที่ราบบนภูจึงดูเหมือนกับเป็นพื้นที่ราบที่สม่ำเสมอ เมื่อฝนตกลงมาทุ่งหญ้าจึงซับน้ำไว้ได้นานแล้วค่อยไหลลงพื้นที่ต่ำ ลำธารด้านหนึ่งไหลรวมกันในแอ่งที่ราบกลางภูเกิดเป็นแอ่งน้ำเรียกว่าสระอโนดาดเป็นสระที่น้ำใสมาก สระอโนดาดเป็นสระน้ำที่สร้างความชื่นใจให้กับนักท่องเที่ยวเพราะอยู่ครึ่งทางของเส้นทางเดินผ่านทุ่งที่จะไปผาหล่มสัก นักท่องเที่ยวมักจะห่ออาหารกลางวันมาพักรับประทานอาหารกันที่ใต้ร่มต้นสนริมสระอโนดาด บ้างก็ลงเล่นน้ำ บ้างก็ได้แวะล้างเนื้อล้างตัวหลังจากไปลุยเส้นทางในป่ามา เดินผ่านทุ่งตากแดดมาร้อนๆ พอมาถึงสระอโนดาดที่น้ำใสแจ๋วก็โดดตูมเลย  น้ำในสระอโนดาดไหลต่อไปยังลำธารไปรวมกับลำห้วยอีกสายหนึ่งตกลงหน้าผาเกิดเป็นน้ำตกขุนพองในป่าปิด ใกล้ๆ กันมีลำธารที่ไหลลงสู่หน้าผาเกิดเป็นน้ำตกถ้ำสอเหนือ น้ำตกถ้ำสอใต้ แล้วไหลไปรวมกับลำธารจากสระอโนดาด ลำธารอีกด้านหนึ่งก็ไหลลงอ่างแก้วไหลต่อไปตามลำธารใกล้ลานกางเต็นท์ไหลตกหน้าผาเกิดเป็น น้ำตกวังกวาง  น้ำตกถ้ำใหญ่  น้ำตกเพ็ญพบ  อีกสายหนึ่งของพื้นที่รับน้ำด้านทิศเหนือเป็นลำธารที่เกิดเป็น น้ำตกเพ็ญพบใหม่  น้ำตกโผนพบ  แล้วลำธารทุกสายเมื่อตกลงจากหน้าผาแล้วก็ไหลไปรวมกันกลายเป็นลำน้ำพอง

น้ำตกแต่ละแห่งบนภูกระดึงถึงแม้จะไม่ใหญ่โตแต่มีเสน่ห์อยู่ที่ความร่มรื่นของเส้นทางและความเขียวของก้อนหินใหญ่ๆ ในลำธารที่ถูกเกาะด้วยมอส  เส้นทางจากน้ำตกแต่ละแห่งต้องเดินในป่าริมลำห้วยที่ร่มรื่นไปด้วยต้นไม้ต่างๆ  ต้นไม้ชนิดหนึ่งที่โดดเด่นของภูกระดึงคือไฟเดือนห้า หรือ ก่วมแดง หรือที่รู้จักกันในชื่อ เมเปิ้ล ต้นเมเปิ้ลจะผลัดใบในช่วงกลางฤดูหนาวราวเดือนธันวาคม ซึ่งก่อนที่จะผลัดใบก็จะเปลี่ยนเป็นสีแดงทั้งต้นแล้วก็ร่วงหล่นไปแดงอยู่ตามพื้นตามลำธารตัดกับสีเขียวของมอสบนก้อนหินริมลำธารสวยงามมาก

ถ้าหากท่านเป็นผู้ที่ไม่ชอบเข้าป่าไม่ชอบน้ำตกก็ยังมีเส้นทางน่าสนใจให้เดินเที่ยวชม นั่นได้แก่เส้นทางเลียบผา เนื่องจากภูกระดึงเป็นภูเขายอดตัด ชายขอบยกสูงจึงเกิดเป็นหน้าผาตลอดแนวเกิดเป็นจุดชมวิวต่างๆ ตลอดแนวหน้าผาได้แก่ ผานกแอ่น เป็นจุดชมทะเลหมอกแจ่มสุดๆ ผาหมากดูกให้ความโรแมนติกยามเย็น  ผาจำศีล  ผานาน้อย  ผาเหยียบเมฆ  ผาแดง  ไปสุดท้ายที่ ผาหล่มสัก ซึ่งเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกที่โดดเด่นสุดของภูกระดึง นอกจากนี้ยังมีผาส่องโลก ผาทัวร์ดอย และอีกหลายๆ ผาที่อยู่ไกลออกไป

รู้จักภูกระดึงกันบ้างแล้ว คราวนี้เราเตรียมตัวขึ้นไปเที่ยวภูกระดึงกันเลยครับ

ข้อมูลท่องเที่ยวภูกระดึง
ข้อมูลทั่วไป
สิ่งควรรู้ก่อนไปภูกระดึง
การเดินทาง
สิ่งอำนวยความสะดวก
แผนที่ภูกระดึง
เส้นทางท่องเที่ยว

การเดินทางมาเที่ยวภูกระดึง ควรเดินทางมาถึงเชิงภูในตอนเช้าตรู่เพื่อที่จะได้เริ่มเดินขึ้นภูกันแต่เช้า เพื่อที่ว่าจะได้เดินไปถึงลานกางเต็นท์ก่อนมืดและมีเวลาจัดการกับสัมภาระ ตั้งแค้มป์ และเผื่อมีเวลาเหลือก็จะได้เดินไปนั่งชมพระอาทิตย์ตกที่ผาหมากดูก  การเดินทางขึ้นภูกระดึงควรใช้บริการลูกหาบเพราะระยะทางค่อนข้างไกลและชัน   ลำพังนักท่องเที่ยวเดินตัวเปล่าก็แทบไม่ไหวกันอยู่แล้ว   ก่อนที่จะเดินขึ้นภูหลังจากจ่ายค่าธรรมเนียมเข้าอุทยานฯเรียบร้อยก็ให้ติดต่อจ้างลูกหาบซึ่งอยู่บริเวณเดียวกัน อัตราการจ้างกิโลกรัมละ 15 บาท  หลังจากติดต่อและชั่งสัมภาระเรียบร้อยแล้วก็จะได้เอกสารยืนยันและต้องเก็บไว้เป็นหลักฐานไว้รับสัมภาระด้านบนภู   เมื่อชั่งสัมภาระเสร็จลูกหาบก็จะเริ่มหาบและเดินขึ้นไปพร้อม ๆ กับเรา   แต่โดยส่วนใหญ่ก็จะถึงบนภูก่อนนักท่องเที่ยวเพราะลูกหาบเดินประจำและมีความแข็งแรง   นักท่องเที่ยวไม่จำเป็นต้องรีบเดินเพราะระหว่างเส้นทางก็มีสิ่งที่น่าสนใจให้ชม เดินชมธรรมชาติไปเรื่อยๆ  ทางช่วงแรกจากจุดเริ่มเดินไปจนถึงยอดภูบริเวณที่เรียกว่าหลังแป  ระยะทางประมาณ 5.5 กิโลเมตร   เป็นทางขึ้นเขาโดยตลอดและบางช่วงค่อนข้างชัน  เมื่อพื้นทางชันก็จะถึงทางราบซึ่งเป็นจุดแวะพัก หรือที่คนท้องถิ่นเรียกว่า ซำ มีร้านขายอาหารและเครื่องดื่มเย็นๆ อยู่เกือบทุกซำ  นักท่องเที่ยวไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องน้ำและอาหาร  แต่ราคาก็ค่อนข้างสูงนิดหน่อยตามระดับความสูงเพราะจะต้องหาบขึ้นมานั่นเอง   ทางระหว่างนี้จะค่อยๆ ไต่ระดับความสูงขึ้นไปเรื่อย ๆ และผ่านสภาพป่าตั้งแต่ป่าระดับพื้นราบไปจนถึงป่าดับความสูงจากระดับน้ำทะเล 1,200 เมตร สังคมป่าที่พบก็ได้แก่ ป่าเต็งรัง ป่าเบ็ญจพรรณ ป่าดงดิบแล้ง และป่าดงดิบเขา โดยปกติทางช่วงแรกนี้จะใช้เวลาเดินประมาณ 3-4 ชั่วโมงก็จะพ้นทางชันถึงพื้นที่ราบบนภูที่เรียกว่า หลังแป  

จากหลังแปจะต้องเดินเท้าต่อไปยังศูนย์บริการนักท่องเที่ยว ซึ่งเป็นลานกางเต็นท์อีกประมาณ 3.5 กิโลเมตร   ระยะทางช่วงนี้เป็นทางราบเดินสบาย  ทางเป็นถนนผ่านทุ่งหญ้าและป่าสนมองได้กว้างไกลสุดลูกหูลูกตา บริเวณศูนย์บริการนักท่องเที่ยวด้านบนภูมีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย เช่น ร้านอาหารมีอยู่มากมายหลายร้าน มีห้องน้ำบริการหลายจุด มีบ้านพักอุทยาน มีสถานที่กางเต็นท์ มีเต็นท์พร้อมเครื่องนอนให้เช่าสำหรับผู้ที่ไม่ได้เตรียมมา หลังจากที่นักท่องเที่ยวมาถึงบริเวณศูนย์บริการ ก็ควรที่จะติดต่อรับสัมภาระและจัดการเรื่องที่พักของตัวเองให้เรียบร้อย หากมีเวลาและสภาพร่างกายยังไหวอยู่แนะนำให้เดินไปนั่ง ตาก ลม ชมวิวพระอาทิตย์ตกที่ผาหมากดูก หรือผ่าจำศีลก็ได้  เดินจากลานกางเต็นท์ไปเพียง 2 กิโลเมตร บรรยากาศยามเย็นใกล้พระอาทิตย์ตกกับเสียงใบสนลู่ลมหนาวเสียงวิ้วๆ ทำให้ได้บรรยากาศของการเที่ยวภูอย่างแท้จริง เสร็จแล้วก็กลับมายังแค้มป์พักผ่อนเอาแรงไว้ลุยสำหรับวันรุ่งขึ้น

เช้าวันแรก   ควรที่จะตื่นแต่เช้า ออกเดินทางไปชมพระอาทิตย์ขึ้นที่ผานกแอ่นซึ่งอยู่ห่างจากลานกางเต็นท์ 2 กิโลเมตร  เป็นจุดชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นและทะเลหมอกเพียงแห่งเดียวบนภูกระดึง  นักท่องเที่ยวควรวางแผนเวลาและการเดินทางให้ดีจะได้ไม่พลาดชมภาพพระอาทิตย์ขึ้นโผล่พ้นทะเลหมอกสีแดงก่อนที่จะสว่างจ้า ขากลับจากผานกแอ่นจะผ่านลานพระแก้ว เป็นพระพุทธรูปปางห้ามญาติองค์ใหญ่ประดิษฐานอยู่บนลานหินเป็นที่สักการระของชาวภูกระดึงและนักท่องเที่ยวทั่วไป   หลังจากไหว้พระเพื่อเป็นสิริมงคลแล้วก็กลับมายังแค้มป์เพื่อรับประทานอาหารเช้าและเตรียมตัวเดินเที่ยวบนภูซึ่งมีอยู่หลายเส้นทางแต่ละเส้นทางล้วนผ่านไปตามแหล่งท่องเที่ยวที่มีความสวยงาม   มีให้เลือกทั้งใกล้และไกล  เดินเยอะก็เห็นอะไรเยอะหน่อย  หรือจะชอบเดินน้อยแต่เน้นพักผ่อนกินบรรยากาศก็สุดแล้วแต่นักท่องเที่ยวจะเลือก ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับเวลาของนักท่องเที่ยวเองว่ามีเวลามากน้อยแค่ไหน   สำหรับเส้นทางเดินเที่ยวบนภูมีเส้นทางไหนบ้าง แต่ละเส้นทางมีจุดเด่นอย่างไร เส้นไหนสวย เส้นไหนอันตรายจะนำเสนอให้ชมกันต่อไปในเร็วๆ นี้ อย่าลืมแวะเวียนมาชมกันบ่อยๆ

 

Photo Gallery  ภูกระดึง

ภูกระดึง
เดินไปผาหมากดูก


นั่งเล่นที่ผาหมากดูก


ทะเลหมอกที่ผานกแอ่น

ลานพระแก้ว ภูกระดึง
ทุ่งมอสสวยที่ลานพระแก้ว

ลานกางเต็นท์ ภูกระดึง
ลานกางเต็นท์ภูกระดึง

ลานกางเต็นท์ภูกระดึง
เต็นท์ของเราที่ภูกระดึง

น้ำตกบนภูกระดึง
ลำธารน้ำตกบนภูกระดึง

สระอโนดาด
สระอโนดาต

ป่าสนภูกระดึง
ป่าสนบนภูกระดึง

ป่าสนภูกระดึง
ป่าสนบนภูกระดึง

ชมพระอาทิตย์ตกที่ผาหล่มสัก
พระอาทิตย์ตกผาหล่มสัก

เส้นทางเดินบนภู
เส้นทางเดินบนภู

ข้อมูลท่องเที่ยวทั่วไทย

ข้อมูลท่องเที่ยว   จังหวัดแม่ฮ่องสอน 

แพคเกจทัวร์  ทัวร์กาญจนบุรี   ทัวร์ภูสอยดาว