การเดินทางมาเที่ยวภูกระดึง
ควรเดินทางมาถึงเชิงภูในตอนเช้าตรู่เพื่อที่จะได้เริ่มเดินขึ้นภูกันแต่เช้า
เพื่อที่ว่าจะได้เดินไปถึงลานกางเต็นท์ก่อนมืดและมีเวลาจัดการกับสัมภาระ
ตั้งแค้มป์
และเผื่อมีเวลาเหลือก็จะได้เดินไปนั่งชมพระอาทิตย์ตกที่ผาหมากดูก
การเดินทางขึ้นภูกระดึงควรใช้บริการลูกหาบเพราะระยะทางค่อนข้างไกลและชัน
ลำพังนักท่องเที่ยวเดินตัวเปล่าก็แทบไม่ไหวกันอยู่แล้ว
ก่อนที่จะเดินขึ้นภูหลังจากจ่ายค่าธรรมเนียมเข้าอุทยานฯเรียบร้อยก็ให้ติดต่อจ้างลูกหาบซึ่งอยู่บริเวณเดียวกัน
อัตราการจ้างกิโลกรัมละ
15 บาท
หลังจากติดต่อและชั่งสัมภาระเรียบร้อยแล้วก็จะได้เอกสารยืนยันและต้องเก็บไว้เป็นหลักฐานไว้รับสัมภาระด้านบนภู
เมื่อชั่งสัมภาระเสร็จลูกหาบก็จะเริ่มหาบและเดินขึ้นไปพร้อม ๆ กับเรา
แต่โดยส่วนใหญ่ก็จะถึงบนภูก่อนนักท่องเที่ยวเพราะลูกหาบเดินประจำและมีความแข็งแรง
นักท่องเที่ยวไม่จำเป็นต้องรีบเดินเพราะระหว่างเส้นทางก็มีสิ่งที่น่าสนใจให้ชม
เดินชมธรรมชาติไปเรื่อยๆ
ทางช่วงแรกจากจุดเริ่มเดินไปจนถึงยอดภูบริเวณที่เรียกว่าหลังแป ระยะทางประมาณ 5.5 กิโลเมตร
เป็นทางขึ้นเขาโดยตลอดและบางช่วงค่อนข้างชัน เมื่อพื้นทางชันก็จะถึงทางราบซึ่งเป็นจุดแวะพัก หรือที่คนท้องถิ่นเรียกว่า ซำ
มีร้านขายอาหารและเครื่องดื่มเย็นๆ
อยู่เกือบทุกซำ นักท่องเที่ยวไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องน้ำและอาหาร แต่ราคาก็ค่อนข้างสูงนิดหน่อยตามระดับความสูงเพราะจะต้องหาบขึ้นมานั่นเอง
ทางระหว่างนี้จะค่อยๆ
ไต่ระดับความสูงขึ้นไปเรื่อย ๆ
และผ่านสภาพป่าตั้งแต่ป่าระดับพื้นราบไปจนถึงป่าดับความสูงจากระดับน้ำทะเล 1,200 เมตร สังคมป่าที่พบก็ได้แก่
ป่าเต็งรัง ป่าเบ็ญจพรรณ
ป่าดงดิบแล้ง และป่าดงดิบเขา
โดยปกติทางช่วงแรกนี้จะใช้เวลาเดินประมาณ 3-4
ชั่วโมงก็จะพ้นทางชันถึงพื้นที่ราบบนภูที่เรียกว่า
หลังแป
จากหลังแปจะต้องเดินเท้าต่อไปยังศูนย์บริการนักท่องเที่ยว
ซึ่งเป็นลานกางเต็นท์อีกประมาณ 3.5 กิโลเมตร
ระยะทางช่วงนี้เป็นทางราบเดินสบาย ทางเป็นถนนผ่านทุ่งหญ้าและป่าสนมองได้กว้างไกลสุดลูกหูลูกตา
บริเวณศูนย์บริการนักท่องเที่ยวด้านบนภูมีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย
เช่น ร้านอาหารมีอยู่มากมายหลายร้าน
มีห้องน้ำบริการหลายจุด มีบ้านพักอุทยาน
มีสถานที่กางเต็นท์ มีเต็นท์พร้อมเครื่องนอนให้เช่าสำหรับผู้ที่ไม่ได้เตรียมมา
หลังจากที่นักท่องเที่ยวมาถึงบริเวณศูนย์บริการ ก็ควรที่จะติดต่อรับสัมภาระและจัดการเรื่องที่พักของตัวเองให้เรียบร้อย
หากมีเวลาและสภาพร่างกายยังไหวอยู่แนะนำให้เดินไปนั่ง
ตาก ลม
ชมวิวพระอาทิตย์ตกที่ผาหมากดูก
หรือผ่าจำศีลก็ได้ เดินจากลานกางเต็นท์ไปเพียง 2
กิโลเมตร
บรรยากาศยามเย็นใกล้พระอาทิตย์ตกกับเสียงใบสนลู่ลมหนาวเสียงวิ้วๆ
ทำให้ได้บรรยากาศของการเที่ยวภูอย่างแท้จริง
เสร็จแล้วก็กลับมายังแค้มป์พักผ่อนเอาแรงไว้ลุยสำหรับวันรุ่งขึ้น
เช้าวันแรก
ควรที่จะตื่นแต่เช้า
ออกเดินทางไปชมพระอาทิตย์ขึ้นที่ผานกแอ่นซึ่งอยู่ห่างจากลานกางเต็นท์
2 กิโลเมตร เป็นจุดชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นและทะเลหมอกเพียงแห่งเดียวบนภูกระดึง นักท่องเที่ยวควรวางแผนเวลาและการเดินทางให้ดีจะได้ไม่พลาดชมภาพพระอาทิตย์ขึ้นโผล่พ้นทะเลหมอกสีแดงก่อนที่จะสว่างจ้า
ขากลับจากผานกแอ่นจะผ่านลานพระแก้ว
เป็นพระพุทธรูปปางห้ามญาติองค์ใหญ่ประดิษฐานอยู่บนลานหินเป็นที่สักการระของชาวภูกระดึงและนักท่องเที่ยวทั่วไป
หลังจากไหว้พระเพื่อเป็นสิริมงคลแล้วก็กลับมายังแค้มป์เพื่อรับประทานอาหารเช้าและเตรียมตัวเดินเที่ยวบนภูซึ่งมีอยู่หลายเส้นทางแต่ละเส้นทางล้วนผ่านไปตามแหล่งท่องเที่ยวที่มีความสวยงาม
มีให้เลือกทั้งใกล้และไกล เดินเยอะก็เห็นอะไรเยอะหน่อย หรือจะชอบเดินน้อยแต่เน้นพักผ่อนกินบรรยากาศก็สุดแล้วแต่นักท่องเที่ยวจะเลือก
ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับเวลาของนักท่องเที่ยวเองว่ามีเวลามากน้อยแค่ไหน
สำหรับเส้นทางเดินเที่ยวบนภูมีเส้นทางไหนบ้าง
แต่ละเส้นทางมีจุดเด่นอย่างไร
เส้นไหนสวย
เส้นไหนอันตรายจะนำเสนอให้ชมกันต่อไปในเร็วๆ
นี้
อย่าลืมแวะเวียนมาชมกันบ่อยๆ
|