หน้าแรก   โปรแกรมทัวร์   ภาพท่องเที่ยว   ข้อมูลท่องเที่ยว   โรงแรมทั่วไทย   ท่องเที่ยวธรรมชาติ   เวบบอร์ด   อุทยานแห่งชาติ   แผนที่ทั่วไทย   ติดต่อเรา

 

ธุรกิจท่องเที่ยว

โรงแรม - ที่พัก

ร้านอาหาร

รถเช่า

โปรแกรมทัวร์

สถานที่ท่องเที่ยว เส้นทางสาย 108 อินทนนท์ จอมทอง ฮอด

อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์
แต่เดิมดอยอินทนนท์มีชื่อว่า ดอยหลวง หรือ ดอยอ่างกา ดอยหลวง หมายถึงภูเขาที่มีขนาดใหญ่ ส่วนที่เรียกว่าดอยอ่างกานั้น มีเรื่องเล่าว่า ห่างจากดอยอินทนนท์ไปทางทิศตะวันตก ๓๐๐ เมตร มีหนองน้ำอยู่แห่งหนึ่งลักษณะเหมือนอ่างน้ำ แต่ก่อนนี้มีฝูงกาไปเล่นน้ำกันมากมาย จึงเรียกว่า อ่างกา ต่อมาจึงรวมเรียกว่า ดอยอ่างกา ยอดดอยอินทนนท์เป็นยอดดอยที่สูงที่สุดในประเทศไทย (๒.๕๖๕ เมตร) มีสภาพอากาศหนาวเย็นตลอดปี เป็นที่ตั้งของสถานีเรด้าของกองทัพอากาศไทยและเป็นที่ประดิษฐานสถูปเจ้าอินทวิชยานนท์ เจ้าเมืองเชียงใหม่องค์สุดท้ายซึ่งเล็งเห็นความสำคัญของป่าไม้และหวงแหนดอยหลวงเป็นอย่างมากต้องการที่จะอนุรักษ์ไว้จนชั่วลูกชั่วหลาน ท่านผูกพันกับที่นี่มากจึงสั่งว่าหากสิ้นพระชนม์ไปแล้วก็ขอให้แบ่งเอาอัฐิส่วนหนึ่งมาไว้ที่นี่
การเดินทาง ระยะทางจากตัวเมืองขึ้นไปจนถึงยอดดอยอินทนนท์ประมาณ ๑๐๖ กิโลเมตร ออกจากตัวเมืองไปตามทางหลวงหมายเลข ๑๐๘ เชียงใหม่-จอมทอง ถึงหลักกิโลเมตรที่ ๕๗ ก่อนถึงอำเภอจอมทอง ๑ กิโลเมตร แยกขวาเข้าทางหลวงหมายเลข ๑๐๐๙ สายจอมทอง-อินทนนท์ ระยะทาง ๔๘ กิโลเมตรถึงยอดดอยอินทนนท์ เป็นถนนลาดยางอย่างดีแต่ทางค่อนข้างสูงชัน รถที่นำขึ้นไปจะต้องมีสภาพดีนักท่องเที่ยวต้องเสียค่าธรรมเนียมบริเวณหลักกิโลเมตรที่ ๘ ผู้ที่ไม่มีรถยนต์ส่วนตัวสามารถขึ้นรถสองแถวที่หน้าวัดพระธาตุศรีจอมทองวรวิหารหรือที่น้ำตกแม่กลาง ซึ่งจะเป็นรถโดยสารประจำทางไปจนถึงที่ทำการอุทยานฯตรงหลักกิโลเมตรที่ ๓๑ และหมู่บ้านใกล้เคียง ค่าโดยสาร ๒๐ บาทต่อคน แต่หากต้องการจะไปยังจุดต่างๆ ต้องเหมาไปคันละประมาณ ๑,๓๐๐ บาท
มีศูนย์บริการนักท่องเที่ยวตั้งอยู่บริเวณกิโลเมตรที่ ๙ ของเส้นทางหมายเลข ๑๐๐๙ มีเจ้าหน้าที่คอยให้คำแนะนำ และมีนิทรรศการเกี่ยวกับธรรมชาติ สัตว์ป่า และอื่นๆ บริเวณที่ทำการมีสิ่งอำนวยความสะดวกพร้อม รวมถึงบ้านพัก ร้านอาหาร และสถานที่กางเต็นท์สำรองที่พักล่วงหน้าอย่างน้อย 1 อาทิตย์ที่กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช โทร. ๐๒-๕๖๒๐๗๖๐ หรือสำรองที่พักด้วยตนเองที่ http://www.dnp.go.th
อ่างกาหลวง

เส้นทางนี้ศึกษาธรรมชาติเส้นนี้ สำรวจวางแนวและออกแบบเส้นทางเดินโดย คุณไมเคิล แมคมิลแลน วอลซ์ นักสัตววิทยาและอาสาสมัครชาวแคนาดาประจำอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ ซึ่งเป็นผู้หนึ่งที่ทำงานและทุ่มเทให้กับอินทนนท์ เขาได้เสียชีวิตที่นี่ด้วยโรคหัวใจ คติข้อหนึ่งของคุณไมค์คือ รักโลกนี้เสมอไปทำงานเพื่อปกป้องแต่ต้องไม่ลืมหาความสุขจากมันด้วย

เส้นทางนี้มีระยะทาง 360 เมตร พื้นที่นี้เป็นหนองน้ำซับในหุบเขา จุดเด่นที่น่าสนใจ คือ ป่าดิบเขาระดับสูง ลักษณะของพรรณไม้เขตอบอุ่นผสมกับเขตร้อนที่พบเฉพาะในระดับสูง นกประจำถิ่นบางชนิด การสะสมของอินทรียวัตถุในป่าดิบเขา ลักษณะอากาศเฉพาะถิ่น พืชที่อาศัยเกาะติดต้นไม้ ลักษณะของต้นน้ำลำธาร และลักษณะของต้นไม้บนดอยอ่างกา เช่นต้นข้าวตอกฤาษีที่ขึ้นตามพื้นดิน (ข้าวตอกฤาษี เป็นพืชที่ต้องการความอุดมสมบูรณ์สูง จะขึ้นในที่สูงกว่า 2,000 เมตรเท่านั้น และเจริญเติบโตได้ดีในพื้นที่ชุ่มชื้น อากาศเย็น) กุหลาบพันปี
ยังมีเส้นทางศึกษาธรรมชาติเส้นทางอื่นอีก แต่ละเส้นทางเหมาะที่จะศึกษาสภาพธรรมชาติที่แตกต่างกันไป เช่น ความหลากหลายของสังคมพืช การฟื้นฟูสภาพป่าที่ถูกทำลาย ความสำคัญของต้นน้ำ การกำเนิดถ้ำ การทำการเกษตรของชาวเขา แหล่งดูนก ระยะทางเดินเริ่มตั้งแต่ 1 จนถึง 8 กิโลเมตร ศึกษารายละเอียดเส้นทางได้ที่ที่ทำการอุทยานฯ การใช้เส้นทางต้องแจ้งให้หัวหน้าอุทยานแห่งชาติฯทราบ เพื่อพิจารณาอนุญาตเป็นการเฉพาะราย เฉพาะกรณี และจะต้องติดต่อขอคนนำทางจากเจ้าหน้าที่อุทยานฯ ณ ที่ทำการฯ บริเวณหลักกิโลเมตร ที่ 31

กิ่วแม่ปาน
เป็นเส้นทางศึกษาธรรมชาติบนดอยอินทนนท์ ทางเข้าอยู่กิโลเมตรที่ 42 ด้านซ้ายมือ ระยะทางเดิน 3 กิโลเมตร เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการสัมผัสธรรมชาติโดยแท้จริง ระหว่างทางเดินจะพบป่าดิบเขา (Hill Evergreen) ก่อนผ่านเข้าสู่ทุ่งหญ้าซึ่งเคยเป็นพื้นที่ป่าถูกทำลาย เพื่อเป็นการศึกษาลักษณะการเกิดผลกระทบต่อเนื่องบริเวณรอยต่อระหว่างพื้นที่ป่าสมบูรณ์กับพื้นที่ถูกทำลาย (edge effect) หลังจากนั้นทางเดินจะเลาะริมผามีไอหมอกปลิวผ่านตลอดเวลา สองข้างจะพบดอกกุหลาบพันปี หรือ Rhododendron (ไม้พุ่มหรือไม้ต้นขนาดเล็ก ขึ้นตามป่าในระดับสูง มีพันธุ์ดอกสีขาวและสีแดง เวลาออกดอกช่วงแรกมีลักษณะเหมือนปลีกล้วย ก่อนที่จะบานเต็มต้นในช่วงเดือนธันวาคม-กุมภาพันธ์ พบมากในแถบเทือกเขาหิมาลัยและเป็นไม้ประจำชาติของเนปาลด้วย) มองลงไปยังเบื้องล่างจะพบทัศนียภาพที่งดงามของอำเภอแม่แจ่ม

การใช้เส้นทางนี้ต้องลงทะเบียนขอรับใบอนุญาตให้ใช้เส้นทางจากหัวหน้าอุทยานฯ และควรจัดกลุ่มละไม่เกิน 15 คน ทางอุทยานฯไม่อนุญาตให้นำอาหรเข้าไปรับประทานในเส้นทาง และจะปิดเส้นทางเพื่อให้ธรรมชาติฟื้นตัวไม่อนุญาติให้เข้าไปท่องเที่ยวตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน ถึงวันที่ 30 ตุลาคม ของทุกปี

พระมหาธาตุนภเมทนีดล และพระมหาธาตุนภพลภูมิสิริ
ตั้งอยู่บนกิโลเมตรที่ ๔๑.๕ทางด้านซ้ายมือ สร้างขึ้นโดยกองทัพอากาศร่วมกับพสกนิกรชาวไทย โดยพระมหาธาตุนภเมทนีดล สร้างถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวโรกาสทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ ๕ รอบ เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๓๐ และพระมหาธาตุนภพลภูมิสิริ สร้างถวายสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ในวโรกาสทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ ๕ รอบ เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๓๕ พระมหาธาตุทั้ง ๒ องค์นี้ มีรูปทรงคล้ายคลึงกัน คือ ฐานเป็นรูป ๑๒ เหลี่ยม มีระเบียงแก้วโดยรอบเป็น ๒ ระดับ เป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุและพระพุทธรูปบูชา รอบบริเวณสามารถมองเห็นทิวทัศน์ของดอยอินทนนท์โดยรอบได้อย่างสวยงาม
โครงการหลวงอินทนนท์

ตั้งอยู่ที่หมู่บ้านขุนกลาง ตำบลห้วยหลวง อำเภอจอมทอง เดินทางตามเส้นทางสู่ดอยอินทนนท์ ถึงบริเวณหลักกิโลเมตรที่ 31 ของทางหลวงหมายเลข 1009 มีทางแยกขวามือเป็นทางลูกรังเข้าสู่โครงการฯ อีกประมาณ 1 กิโลเมตร โครงการหลวงอินทนนท์ รับผิดชอบส่งเสริมอาชีพเกษตรกรรมให้แก่ชาวเขาเผ่ากะเหรี่ยงและชาวเขาเผ่าแม้วในพื้นที่ ผลิตผลหลักของโครงการ คือ ไม้ดอกเมืองหนาวต่างๆ เช่น คาร์เนชั่น เบญจมาศ สแตติส ยิบโซ เป็นต้น นักท่องเที่ยวสามารถเที่ยวชมแปลงปลูกดอกไม้ ห้องทดลองทำการเพาะขยายพันธุ์ และยังสามารถแวะชมแปลงปลูกดอกไม้ของชาวเขาในหมู่บ้านซึ่งอยู่บริเวณปากทางเข้าโครงการฯได้ด้วย
น้ำตกสิริภูม
เป็นน้ำตกซึ่งไหลมาจากหน้าผาสูงชัน เป็นทางยาวสวยงามมาก สามารถมองเห็นได้จากถนนขึ้นดอยอินทนนท์ตรงที่ทำการอุทยานฯ จะเห็นเป็นสายน้ำตกแฝดไหลลงมาคู่กันแต่เดิมเรียกว่า เลาลี ตามชื่อของหมู่บ้านม้ง (แม้ว) เลาลี ซึ่งอยู่ใกล้ๆ น้ำตก น้ำตกสิริภูมิตั้งอยู่ตรงกิโลเมตรที่ ๓๑ ของทางหลวงหมายเลข ๑๐๐๙ มีทางแยกขวามือเข้าไปอีกประมาณ ๒ กิโลเมตร แต่รถไม่สามารถเข้าไปใกล้ตัวน้ำตกได้ นักท่องเที่ยวต้องเดินเท้าเข้าไปบริเวณด้านล่างของน้ำตก
น้ำตกวชิรธาร
เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ เดิมชื่อ ตาดฆ้องโยง ตัวน้ำตกอยู่สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ ๗๕๐ เมตร น้ำจะดิ่งจากผาด้านบนตกลงสู่แอ่งน้ำเบื้องล่าง ในช่วงที่มีน้ำมากละอองน้ำจะสาดกระเซ็นไปทั่วบริเวณรู้สึกได้ถึงความเย็นและชุ่มชื้น สะพานไม้ที่ทอดยาวเข้าไปหาหน้าผานั้นจะเปียกลื่นอยู่ตลอดเวลาในฤดูน้ำมากแต่หากเดินเข้าไปจนสุดจากจุดนั้นจะได้สัมผัสกับความงามของน้ำตกมากที่สุด
การเดินทาง  จากเชิงดอยอินทนนท์ขึ้นไปถึงกิโลเมตรที่ ๒๑ จะเห็นป้ายบอกทางแยกขวาเข้าน้ำตก ลงไป ๕๐๐ เมตร ถนนจะถึงที่ตัวน้ำตก อีกเส้นทางหนึ่งซึ่งเป็นเส้นทางเดิมอยู่เลยจากทางแยกแรกไปประมาณ ๑ กิโลเมตร เลี้ยวขวาตามป้ายและเดินจากลานจอดรถลงไปอีก ๓๕๑ เมตร หากใช้เส้นทางนี้จะได้สัมผัสกับงามของธรรมชาติรอบด้านตลอดทางเดิน
น้ำตกแม่กลาง

เป็นน้ำตกในอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ มีขนาดใหญ่ชั้นเดียว สูงประมาณ ๑๐๐ เมตร ต้นน้ำอยู่บนดอยอินทนนท์ มีน้ำไหลตลอดปี มีความสวยงามตามธรรมชาติ รอบๆ บริเวณร่มรื่นน่าพักผ่อน การเดินทาง จากทางแยกเข้าทางหลวง ๑๐๐๙ ไปอีก ๘ กิโลเมตร แยกซ้าย ๕๐๐ เมตร เป็นทางลาดยางตลอด
ถ้ำบริจินดา

เป็นถ้ำใหญ่อยู่ในเทือกเขาดอยอ่างกาหรือดอยอินทนนท์ ใกล้กับน้ำตกแม่กลาง ตั้งอยู่บริเวณกิโลเมตรที่ ๘.๕ ของทางหลวงหมายเลข ๑๐๐๙ จะเห็นทางแยกขวามือมีป้ายบอกทางไปถ้ำบริจินดา ภายในถ้ำมีความลึกหลายกิโลเมตร เพดานถ้ำมีหินงอกหินย้อย หรือชาวเหนือเรียกว่า นมผา สวยงามมาก มีพระพุทธรูปประดิษฐานอยู่ในถ้ำด้วย นอกจากนั้น ยังมีธารหิน เมื่อมีแสงสว่างมากระทบจะเกิดประกายระยิบระยับดังกากเพชรงามยิ่งนัก ลักษณะของถ้ำเป็นถ้ำทะลุสามารถมองเห็นภายในได้ถนัด เพราะมีอุโมงค์ซึ่งแสงสว่างลอดเข้ามา บริเวณปากถ้ำจะมีป้ายขนาดใหญ่ตั้งอยู่ อธิบายประวัติการค้นพบถ้ำนี้
น้ำตกแม่ยะ  

เป็นน้ำตกในอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ มีขนาดใหญ่และสวยงามมากแห่งหนึ่ง เพราะน้ำซึ่งไหลลงมาจากหน้าผาที่สูงชัน ๒๘๐ เมตร ลงมากระทบโขดหินเป็นชั้นๆ เหมือนม่าน แล้วลงไปรวมกันที่แอ่งน้ำเบื้องล่าง น้ำใสเย็นเหมาะสำหรับเป็นที่พักผ่อนหย่อนใจ อีกทั้งบริเวณรอบๆ น้ำตกเป็นป่าเขาอันสงบเงียบ และมีศูนย์ประชาสัมพันธ์นักท่องเที่ยวตั้งอยู่ด้วย บริเวณน้ำตกสะอาดและจัดการพื้นที่ได้กลมกลืนกับสภาพแวดล้อม การเดินทาง จากทางแยกเข้าทางหลวง ๑๐๐๙ ไปประมาณ ๑ กิโลเมตร เลี้ยวซ้ายเข้าไป ๑๔ กิโลเมตร และต้องเดินเท้าเข้าไปอีก ๒๐๐ เมตร พื้นที่ใกล้ๆ น้ำตกมีลานกางเต็นท์ไว้ให้บริการนักท่องเที่ยวที่ต้องการไปพักแรมท่ามกลางธรรมชาติ
น้ำตกแม่เตี๊ยะ

ตั้งอยู่ที่ตำบลดอยแก้ว อำเภอจอมทอง อยู่ในพื้นที่รับผิดชอบของอุทยานแห่งชาติออบหลวง น้ำตกแม่เตี๊ยะตั้งอยู่บริเวณกลางป่าลึก ตัวน้ำตกสูงประมาณ 80 เมตร กว้างประมาณ 15 เมตร น้ำตกมีทั้งหมด 4 ชั้น มีระยะทางประมาณ 5 กิโลเมตร มีน้ำตลอดปี ชาวสบเตี๊ยะนำน้ำจากที่นี่ไปใช้ในการเกษตร เหมาะสำหรับเป็นแหล่งศึกษาธรรมชาติ

การเดินทาง จากเชียงใหม่โดยรถยนต์ไปตามทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 108 ถึงอำเภอจอมทอง เลี้ยวขวาข้างที่ว่าการอำเภอ หรือเลี้ยวขวาข้างวัดสบเตี๊ยะ มีระยะทางโดยรวม 15 กิโลเมตร หรือโดยสารรถประจำทาง เชียงใหม่-จอมทอง จากนั้นต่อรถมอเตอร์ไซค์รับจ้าง

น้ำตกแม่ปาน

ตั้งอยู่ที่ตำบลดอยแก้ว อำเภอจอมทอง อยู่ในพื้นที่รับผิดชอบของอุทยานแห่งชาติออบหลวง น้ำตกแม่เตี๊ยะตั้งอยู่บริเวณกลางป่าลึก ตัวน้ำตกสูงประมาณ 80 เมตร กว้างประมาณ 15 เมตร น้ำตกมีทั้งหมด 4 ชั้น มีระยะทางประมาณ 5 กิโลเมตร มีน้ำตลอดปี ชาวสบเตี๊ยะนำน้ำจากที่นี่ไปใช้ในการเกษตร เหมาะสำหรับเป็นแหล่งศึกษาธรรมชาติ

การเดินทาง จากเชียงใหม่โดยรถยนต์ไปตามทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 108 ถึงอำเภอจอมทอง เลี้ยวขวาข้างที่ว่าการอำเภอ หรือเลี้ยวขวาข้างวัดสบเตี๊ยะ มีระยะทางโดยรวม 15 กิโลเมตร หรือโดยสารรถประจำทาง เชียงใหม่-จอมทอง จากนั้นต่อรถมอเตอร์ไซค์รับจ้าง

น้ำตกแม่ปาน

ห่างจากที่ว่าการอำเภอแม่แจ่มประมาณ 16 กิโลเมตร แยกจากทางหลวงหมายเลข 1009 ตรงด่านตรวจกิโลเมตรที่ 38 ไปตามเส้นทางสายอินทนนท์-แม่แจ่ม (ทางหลวงหมายเลข 1192) ประมาณ 6 กิโลเมตร จะมีป้ายบอกทางไปน้ำตกแยกเข้าไปอีก 9 กิโลเมตร เป็นทางลูกรังในช่วงหน้าฝนทางลำบากมากต้องใช้รถขับเคลื่อน 4 ล้อเท่านั้น และจากจุดจอดรถต้องเดินต่อไปอีกประมาณ 10 นาที จึงจะถึงตัวน้ำตก น้ำตกแม่ปานนับว่าเป็นน้ำตกที่ยาวที่สุดของเชียงใหม่ก็ว่าได้ น้ำจะตกลงมาจากหน้าผาซึ่งสูงกว่า 100 เมตร เป็นทางยาว ถ้ามองดูแต่ไกลจะเห็นสายน้ำยาวสีขาวตัดกับสีเขียวของต้นไม้ทำให้ดูเด่น น้ำที่ตกลงมายังเบื้องล่างกระทบโขดหินแตกเป็นฟองกระจายไปทั่วบริเวณ เบื้องล่างมีแอ่งน้ำหลายแอ่งผู้มาพักผ่อนลงอาบเล่นได้
วัดพระธาตุศรีจอมทองวรวิหาร

วัดพระธาตุศรีจอมทองวรวิหาร ตั้งอยู่หมู่ที่ ๒ ตำบลบ้านหลวง อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ สร้างเมื่อพุทธศักราช ๑๙๙๔ โดยนายสร้อย นางเม็ง เป็นผู้สร้างขึ้นบนดอยจอมทอง จึงได้ชื่อว่า“ วัดพระธาตุเจ้าศรีจอมทอง ” สูงจากที่ราบ ๑๐ เมตร  เป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุของพระสมมาสัมพุทธเจ้า  วัดพระธาตุศรีจอมทองตั้งอยู่ทางทิศใต้ของจังหวัดเชียงใหม่ ห่างจากอำเภอเมือง เชียงใหม่ ๕๘ กิโลเมตร วัดนี้สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อพุทธศักราช ๒๔๗๐ และได้รับพระราชทานยกฐานะวัดขึ้นเป็นวัดพระอารามหลวงชั้นตรี ชนิด วรวิหาร เมื่อวันที่ ๓๐ เดือน พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๐๖

มีความเชื่อว่าพระธาตุศรีจอมทองเป็นพระธาตุประจำผู้เกิดปีชวด
ในเดือน 7 ใต้ ขึ้น 15 ค่ำ หรือตรงกับเดือน 9 เหนือ ขึ้น 15 ค่ำ จะมีงานประเพณีสรงน้ำพระบรมธาตุเจ้าเป็นประจำทุกปี

วัดพระธาตุดอยน้อย

ตั้งอยู่ที่ตำบลดอยหล่อ อำเภอจอมทอง ตามทางหลวงหมายเลข 108 ระหว่างกิโลเมตรที่ 43-44 หากมาจากเชียงใหม่จะอยู่ฝั่งซ้ายมือ ตามประวัติว่าสร้างโดยพระนางจามเทวี เมื่อปี พ.ศ. 1201 โบราณสถานและโบราณวัตถุที่พบ ได้แก่ พระบรมธาตุ โข่งพระ (กรุพระ) โบสถ์ วิหาร และพระพุทธรูปหินอ่อนแกะสลัก ทั้งองค์เล็กองค์ใหญ่มากมาย บริเวณวัดตั้งอยู่บนภูเขาติดลำน้ำปิง มองเห็นทิวทัศน์โดยรอบทุกทิศ มีบันไดนาคขึ้นไป 241 ขั้น
อุทยานแห่งชาติออบหลวง
ออบหลวงเป็นสถานที่น่าเที่ยวที่ธรรมชาติสร้างสรรค์ความสวยงามและน่ากลัวไว้ในจุดเดียวกัน กล่าวคือ เบื้องล่างเป็นแม่น้ำที่ไหลคดเคี้ยวผ่านช่องเขาขาดตรงออบหลวง ช่องเขานี้มีลักษณะเป็นหน้าผาสูงชันและแคบมาก บีบทางน้ำไหล ดังนั้น แม่น้ำตรงนี้จึงเชี่ยวจัด เสียงน้ำกระทบหน้าผาดังสนั่น รอบๆ บริเวณชายน้ำด้านเหนืองดงามไปด้วยหมู่ไม้น้อยใหญ่ ร่มรื่นอยู่ตลอดเวลาชั่วนาตาปี นอกจากนี้ยังมีสะพานเชื่อมช่องเขาขาดสำหรับนักท่องเที่ยวยืนชมความงดงามของทัศนียภาพออบหลวง และภายในบริเวณอุทยานฯ มีการขุดค้นพบแหล่งโบราณคดียุคก่อนประวัติศาสตร์ด้วย
ที่พักและสิ่งอำนวยความสะดวก
ทางอุทยานฯมีสถานที่กางเต็นท์ และมีเต็นท์ให้เช่าพร้อมเครื่องนอนในอัตราคืนละ 50 บาท
อยู่ห่างจากตัวเมืองเชียงใหม่ ตามทางหลวงหมายเลข108 สายฮอด-แม่สะเรียง ตรงหลักกิโลเมตรที่ 17 รวมระยะทางประมาณ 105 กิโลเมตร สภาพทางลาดยางตลอด และช่วงระหว่างฮอดจนถึงออบหลวงนั้น ถนนจะเลียบขนานไปกับแม่น้ำแม่แจ่มหรือแม่น้ำสลักหิน และวกไปเวียนมาตามไหล่เขา หากเดินทางโดยรถประจำทาง มีรถบัสสีฟ้าจอดที่ท่ารถตรงวงเวียนฮอด-แม่สะเรียง วิ่งทั้งหมด 3 เส้นทาง คือ ฮอด – แม่สะเรียง ฮอด-แม่แจ่ม ฮอด-อมก๋อย ซึ่งจะผ่านออบหลวงทั้งสามสาย
อุทยานแห่งชาติออบขาน

มีพื้นที่ทั้งหมดประมาณ 484 ตารางกิโลเมตร หรือ 302,500 ไร่ครอบคลุมพื้นที่อำเภอต่างๆในจังหวัดเชียงใหม่ ได้แก่ สะเมิง หางดง แม่วาง และสันป่าตอง ลักษณะภูมิประเทศเป็นภูเขาหินปูนและหินอัคนี ประกอบด้วยป่าประเภทต่างๆ ได้แก่ ดิบเขา สนเขา ดิบแล้ง เบญจพรรณ และ เต็งรัง เป็นต้นกำเนิดน้ำแม่วาง น้ำแม่วิน และน้ำแม่ขาน และที่นี่เป็นแหล่งที่พบเอื้องมณีไตรรงค์แห่งเดียวในประเทศไทย ซึ่งจะบานในช่วงเดือนมกราคม
ทะเลสาบดอยเต่า

อยู่ในเขตอำเภอดอยเต่า จังหวัดเชียงใหม่ เป็นพื้นที่น้ำท่วมถึงภายหลังการสร้างเขื่อนภูมิพล เป็นอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ ซึ่งอยู่เหนือเขื่อนภูมิพล เคยใช้ในการเกษตรกรรม การประมง   ในบริเวณอ่างเก็บน้ำ หากมีน้ำมากพอ (โดยมากจะอยู่ในช่วงเดือนตุลาคม-เมษายน) จะมีบริการแพพัก ราคา 1,000-1,500 บาท และเรือนำเที่ยวไปยังเขื่อนภูมิพล จังหวัดตาก รายละเอียดติดต่อ บริษัท ท่องนที จำกัด โทร. 0 2457 6873-4, 0 2457 3428

การเดินทาง จากเชียงใหม่ใช้ทางหลวงหมายเลข 108 ไปยังอำเภอฮอด ระยะทาง 90 กิโลเมตร แล้วเลี้ยวซ้ายสู่ทางหลวงหมายเลข 1130 ไปยังทะเลสาบดอยเต่าอีก 35 กิโลเมตร รวมระยะทางจากจังหวัดเชียงใหม่ 125 กิโลเมตร

บ้านไร่ไผ่งาม  

เป็นหมู่บ้านผลิตผ้าฝ้ายทอมือแบบโบราณที่มีคุณภาพและมีชื่อเสียงของจังหวัดเชียงใหม่ ตั้งอยู่กิโลเมตรที่ 69-70 ตามเส้นทางเชียงใหม่-ฮอด และเลี้ยวซ้ายเข้าไปหมู่บ้านอีกประมาณ 1 กม. ทางเข้าหมู่บ้านร่มรื่นด้วยเงาไม้ไผ่สองข้างทาง ปัจจุบันกลุ่มแม่บ้านซึ่งได้รับการถ่ายทอดการผลิตผ้าฝ้ายทอมือย้อมสีธรรมชาติ จากคุณป้าแสงดา บันสิทธิ์ ศิลปินแห่งชาติ รวมกลุ่มกันผลิตที่บ้านป้าแสงดา ซึ่งอยู่ติดกับลำน้ำปิง ปัจจุบันได้จัดทำเป็น พิพิธภัณฑ์ผ้าป้าดา เพื่อรำลึกถึงผลงานของท่าน และยังแสดงถึงชีวิตความเป็นอยู่แบบพื้นบ้านในสมัยก่อนด้วย ข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 0 5336 1231 โทรสาร 0 5336 1230 สถานที่ติดต่อในเมืองเชียงใหม่ โทร. 0 5327 3625
สถานีทดลองปลูกพรรณไม้บ่อแก้ว (สวนสนบ่อแก้ว)

ตามเส้นทางสายฮอด-แม่สะเรียง กิโลเมตรที่ 36 สถานีฯเป็นส่วนหนึ่งของโครงการสำรวจวัตถุดิบเพื่อทำเยื่อกระดาษ เป็นแปลงทดลองปลูกพืชจำพวกสน และยูคาลิบตัส ในเนื้อที่ทั้งหมด 2,072 ไร่ อากาศของที่นี่ชื้นและเย็นตลอดปี งามด้วยทิวสนที่ปลูกอย่างเป็นระเบียบงามตาจึงทำให้บริเวณสถานีกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมแห่งหนึ่ง
อุทยานแห่งชาติแม่โถ

มีพื้นที่ประมาณ 990 ตารางกิโลเมตร ครอบคลุมพื้นที่ อ.ฮอด และ อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ ภูมิประเทศส่วนใหญ่เป็นเทือกเขาสลับซับซ้อน โดยมีดอยกิ่งไร่มงเป็นยอดเขาสูงสุด มีความสูง 1,715 เมตร จากระดับน้ำทะเล เทือกดอยเหล่านี้ปกคลุมด้วยป่าดิบเขา ป่าดิบแล้ง ป่าสนเขา ป่าเบญจพรรณ และป่าเต็งรัง เป็นแหล่งต้นน้ำของลำน้ำแม่แจ่มและลำน้ำแม่ลิด สำหรับสัตว์ป่ายังคงพบเลียงผา เก้ง หมีควาย หมูป่า รวมทั้งนกนานาชนิด
สถานที่น่าสนใจในอุทยานฯ
จุดชมทิวทัศน์ อยู่บริเวณที่ทำการอุทยานแห่งชาติ มองลงมายังหุบบเขาเบื้องล่างจะเห็นนาข้าวขั้นบันไดของชาวเขาเผ่ากะเหรี่ยง เป็นเส้นคดเคี้ยวดูคล้ายแม่น้ำ โดยเฉพาะในช่วงฤดูฝนนาข้าวจะเขียวขจีชุ่มชื้น หากอากาศปลอดโปร่งจะมองเห็นยอดดอยอินทนนท์ ตอนเช้าหมอกจะหนามาก และอากาศเย็นตลอดปี น้ำตกแม่แอบ เป็นน้ำตกที่มีความสวยงามบรรยากาศโดยรอบร่มรื่นน่าเที่ยวชม

หากต้องการมาพักแรมตรงที่ทำการฯ ซึ่งปัจจุบันมีบ้านพัก 7 หลัง ต้องเตรียมเครื่องนอน และอาหารมาเอง สอบถามรายละเอียดได้ที่ศูนย์ประสานงานอุทยานแห่งชาติและวนอุทยานกลุ่มนครพิงค์ โทร. 0 5381 8384

การเดินทาง อุทยานฯอยู่ห่างจากตัวเมืองเชียงใหม่ประมาณ 160 กิโลเมตร ไปตามเส้นทางสายฮอด-แม่สะเรียง ถึงกิโลเมตรที่ 55 แล้วแยกเข้าเส้นทางไปแม่โถอีก 16 กิโลเมตร ช่วงนี้สภาพถนนลาดยางสลับลูกรัง ลาดชันและคดเคี้ยวจึงควรใช้รถที่มีกำลังและสภาพดี

ดอยม่อนจอง
เป็นดอยที่สูงที่สุดของป่าอมก๋อยด้วยความสูง 1928 เมตร มีสันดอยยาวกว่า 4 กิโลเมตร ทัศนียภาพมองจากสันดอยสวยงามมาก นอกจากนี้บริเวณสันดอยยังมีกุหลาบฟันปีขึ้นอยู่เป็นจำนวนมากและจะออกดอกบานสะพรั่งในฤดูหนาวราวเดือนธันวาคม-มกราคม

การขึ้นดอยม่อนจองควรใช้เวลาอย่างน้อย 2 วัน 1 คืน ก่อนเดินขึ้นดอยต้องติดต่อขออนุญาตจากเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอมก๋อย หน่วยมูเซอซึ่งเป็นที่ตั้งที่ทำการเขตรักษาพันธุ์ฯ

การเดินทาง ไปยังเขตรักษาพันธุ์ฯอมก๋อย (หน่วยมูเซอ) จากเชียงใหม่ใช้ทางหลวงหมายเลข 108 แล้วแยกซ้ายจากอำเภอฮอดเข้าทางหลวงหมายเลข 1099 ไปจนถึงตัวอำเภออมก๋อย และตรงต่อไปตามทางหลวง 1099 ประมาณ 40 กิโลเมตร จะพบหน่วยมูเซออยู่ทางด้านซ้ายมือ จากหน่วยฯไปยังจุดเริ่มเดินอีกประมาณ 16 กิโลเมตร ทางในช่วงนี้จำเป็นต้องใช้รถขับเคลื่อนสี่ล้อและคนขับที่มีความชำนาญเป็นอย่างมาก เนื่องจากสภาพทางเป็นลูกรัง และแคบคดเคี้ยวริมผา

ผู้ที่เดินทางโดยรถโดยสารประจำทาง จากอำเภอเมืองเชียงใหม่มีคิวรถจากประตูช้างเผือก มายังอมก๋อย รถออกประมาณ 08.00 น. สามารถติดต่อเช่ารถขับเคลื่อนสี่ล้อได้ที่หน่วยมูเซอ ค่าบริการคันละ 2,200-2,500 บาท ,ค่าบริการลูกหาบ 150 บาท/วัน/คน

ข้อมูลเพิ่มเติมดอยม่อนจอง คลิกที่นี่

 

ท่องเที่ยวเป็นหมู่คณะ เฉพาะในกลุ่มของท่านเอง  8 -16 ท่าน  กำหนดวันเดินทางตามความสะดวกของท่าน

Copyright © 2005 Tourdoi.com All Rights Reserved.