จุดที่น่าสนใจ
อุทยานแห่งขาติแก่งกระจาน
ิแก่งกระจาน
ดูนก
ดูผีเสื้อ เดินป่า ชมทะเลหมอก
ดูสัตว์ เที่ยวน้ำตก
เดินตามลำธาร ล่องแก่ง
ล่องเรือ ตกปลา พักแรมริมอ่าง
ทุกสิ่งทุกอย่างที่กล่าวมามีให้ที่
อช. แก่งกระจาน
สถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญที่
อช. แก่งกระจาน มีดังต่อไปนี้
บ้านกร่างแค้มป์
ตั้งอยู่ที่ กม.15
มีระยะทางห่างจากศูนย์บริการนักท่องเที่ยว
( ที่ทำการอุทยาน ) ประมาณ 34 กม.
สภาพเส้นทางจากอุทยานเป็นทางลาดยาง
10 กม.
และเป็นทางลูกรังอัดแน่นอีก 9
กม.
ต่อจากนั้นจะเป็นถนนเข้าเขตอุทยานซึ่งเป็นถนนลาดยางสร้างใหม่ผิวถนนดีเยี่ยมเป็นระยะทางประมาณ
10 กม. ต่อจากนั้นเป็นทางลูกรัง
ถนนโดยน้ำกัดเซาะเป็นร่องบ้าง
รถยนต์ส่วนตัว ทั้งรถเก๋ง และรถปิคอัพสามารถเข้าไปถึงจุดกางเต็นท์ได้อย่างสบายๆ
ลานกางเต็นท์ที่รถเข้าถึงที่
สะดวกสบายในบรรยากาศธรรมชาติที่ไม่วุ่นวาย
สภาพของบ้านกร่างแค้มป์เป็นลานกางเต็นท์กว้างอยู่ชายป่าด้านที่ติดกับชายป่าเป็นลำธารตื้นๆ
น้ำใส
มีป่าในลำธารให้เห็นมากมายแต่ตัวไม่ใหญ่นัก
ที่ลานกางเต็นท์จุดนี้มีห้องสุขาไว้บริการ
และไม่มีห้องอาบน้ำ
แต่นักท่องเที่ยวสามารถรองน้ำจากก๊อกน้ำในห้องน้ำมาอาบได้
โดยจะต้องใช้สายยางสั้นๆ
ต่อจากก๊อกน้ำนั้น
หากนักท่องเที่ยวต้องการบรรยากาศของการแคมปิ้งก็สามารถลงไปอาบน้ำในลำธารได้
บริเวณท้ายน้ำมีแอ่งน้ำลึกพอสมควรให้ได้ลงไปเล่นน้ำหรือจะตักอาบอยู่ริมลำ
ลำธารใสๆ
ที่อยู่ริมจุดกางเต็นท์
สภาพป่าของบริเวณนี้เป็นป่าเบญจพรรณและป่าดิบแล้ง
มีอากาศเย็นสบาย
บริเวณจุดกางเต็นท์นี้มีนกสวยๆ
และสัตว์ป่าหลายชนิด
เช่นค่าง ชะนี บ่าง นกเงือก
และอีกหลายชนิด หากเงียบคน
สัตว์เหล่านี้ก็จะพากันออกมาให้เราได้เห็นโดยไม่ต้องเดินเข้าไปในป่าลึกๆ
แต่ประการใด
นกจากนกแล้วที่จุดนี้ยังผีเสื้อสวยงามอีกมากมาย
หากเราไปในฤดูที่ผีเสื้อเยอะท่านจะได้ตะลึงกับจำนวนผีเสื้อนับพันนับหมื่นตัวบินว่อนไปทั่วบริเวณ
หากท่านต้องการเดินสัมผัสธรรมชาติของเส้นทางเดินป่า
ที่นี่ก็มีเส้นทางเดินป่าศึกษาธรรมชาติระยะทางสั้นๆ
แบบได้บรรยากาศโดยไม่เหน็ดเหนื่อยมากนัก
ระยะทางเดินประมาณ 3.5 กม.
โดยเริ่มจากจุดกางเต็นท์เดินข้ามลำห้วยที่เห็นในภาพข้างบน
ตัดเข้าสู่ป่าทึบ
เส้นทางเดินจะลัดเลาะไปตามลำธารและข้ามลำธารตื้นๆ
หลายจุดแต่ไม่ต้องกลัวจะเปียกเพราะว่าเป็นลำธารที่มีก้อนหินให้เดินผ่านไปได้
ตลอดเส้นทางมีลักษณะเป็นทางราบสลับเนินเตี้ยๆ
บางจุด
ในป่าที่เดินนี้มีผีเสื้อสีน้ำตาลหลายชนิดให้ได้เราได้ดู
และยังมีสิ่งที่น่าสนใจอีกหลายอย่างซึ่งในป่าควรจะมี
หากท่านชอบธรรมชาติรับรองว่าเส้นทางเดินป่าสั้นๆ
เส้นทางนี้จะให้ท่านคุ้มค่ากับเวลาที่เสียไป
เดินข้ามลำธารหลายจุดของเส้นทางเดินป่าศึกษาธรรมชาติระยะทางสั้นๆ
ของบ้านกร่างแค้มป์
เส้นทางเดินป่าเส้นนี้จะตัดออกมาสู่ถนนสายหลักที่
กม.16 ( เราเริ่มจาก กม.15 )
แล้วใช้เส้นทางถนนลูกรังเดินกลับสู่จุดพักแรม
ระหว่างเส้นทางเดินนี้มีสัตว์ป่าออกมาให้เห็นได้เสมอเช่น
ค่าง เยอะมาก ชะนีก็เยอะ
นอกจากเส้นทางเดินป่าแล้ว
จุดที่น่าสนใจของบ้านกร่างแค้มป์คือ
จากจุดพักแรมเราสามารถเดินไปตามถนนเพื่อดูนกดูผีเสื้อได้ตั้งแต่
กม.10-กม.18
ซึ่งเป็นแหล่งที่มีนกและผีเสื้อมาก
ท่านสามารถเดินชมธรรมชาติได้โดยไม่ต้องมีเจ้าหน้าที่นำทางเพราะเดินไปตามแนวถนนที่เขียวขจีด้วยตัวของท่านเอง
หากท่านมาในฤดูแล้งจะได้เห็นผีเสื้อเป็นแสนๆ
ตัวตามแนวสองข้างทาง
ตามโป่งดิน แอ่งน้ำ
ที่ไงสภาพของเส้นทางที่เราเดินเที่ยว
ดูนก ดูผีเสื้อ ช่วง กม.10 - กม.18
บ้านกร่างแค้มป์เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการมานอนในบรรยากาศของธรรมชาติในป่า
ดูนก ดูผีเสื้อ ดูสัตว์ป่า
หรือต้องการมานอนพักผ่อนเย็นสบาย
หมายเหตุ
... กม. 0
เริ่มจากสี่แยกเข้าอุทยาน
ซึ่งอยู่ห่างจากที่ทำการ อช.แก่งกระจานที่ริมอ่างเก็บน้ำ
19 กม.
จากบ้านกร่างแค้มป์
กม.15
จุดต่อไปคือพระเนินทุ่งแค้มป์
พระเนินทุ่งแค้มป์
อยู่ที่
กม.30
เป็นจุดตั้งแค้มป์พักแรมจุดต่อไปที่อยู่บนเขาสูง
สภาพอากาศข้างบนฝนตกเกือบทุกวันในฤดูฝน
หากเป็นฤดูหนาวก็จะหนาวมากเพราะว่าสูง
ลานกางเต็นท์ของจุดนี้มีไม่มากนักพื้นที่กางเต็นท์ส่วนใหญ่จะอาศัยไหล่ทางและตัดเนินเล็กๆ
ให้เป็นที่ราบ
หากเป็นฤดูฝนจะมีน้ำขังเฉอะแฉะมากเพราะมีฝนตกเกือบทุกวัน
จุดกางเต็นท์ที่พระเนินทุ่งแค้มป์
เหมาะสำหรับการขึ้นมารอชมทะเลหมอก
และวิวทิวทัศน์ภูเขาที่สลับซับซ้อน
จุดชมทะเลหมอกไม่ใช่อยู่ที่จุดกางเต็นท์
อยู่ห่างออกไปอีก
จุดชมทะเลหมอกจะอยู่ช่วง กม.
31-33 ที่ กม.31
จะเป็นทางเข้าตำหนักพระเทพฯ
ปากทางเข้าจะมีศาลาชมวิว
ที่จุดนี้สามารถชมทะเลหมอกได้เด่นพอสมควร
เอาแน่ไม่ได้กับการชมทะเลหมอก
มีบ้างไม่มีบ้างแล้วแต่สภาพอากาศในแต่ละวัน
ลักษณะของจุดกางเต็นท์ที่นี่จะเป็นพื้นที่แคบๆ
กระจายอยู่หลายที่
หากมีนักท่องเที่ยวขึ้นไปมากจะมีปัญหาเรื่องพื้นที่กางเต็นท์
เส้นทางจากบ้านกร่างแค้มป์มายังพระเนินทุ่งแคมป์จะต้องผ่านลำธาร
3 จุด ลำธารที่ 2
จะเป็นร่องลึกตลิ่งสูง
รถตู้และรถเก๋งผ่านไม่ได้
บางคนก็บอกว่าผ่านได้ ขนาดรถปิคอัพธรรมดายังครูดกับพื้นถนน
อันนี้ก็แล้วแต่ว่าใครจะเสี่ยง
อันที่จริงจะปรับตลิ่งให้ลาดต่ำก็ทำได้
แต่ที่ปล่อยให้ตลิ่งสูงก็คงเพื่อลดปริมาณรถที่จะขึ้นสู่บนเขาเพราะเส้นทางค่อนข้างแคบ
การที่รถขึ้นไปมากจะมีปัญหาเรื่องการจราจร
ภาพลำธารที่
2
ที่มีตลิ่งด้านขวามือที่สูงชัน
รถเก๋งจะผ่านไปได้หรือไม่ได้ตัดสินใจกันเองครับ
ถ้าดูไม่ชัดก็คลิกขยายใหญ่ได้
จาก
กม.31 ไปจนสุดถนนที่ กม.36
จะต้องขับลัดเลาะไปตามไหล่เขาที่ไหลทางค่อนข้างชัน
เส้นทางนี้มีจุดชมวิวอยู่หลายจุด
จุดที่เด่นที่สุดสำหรับการชมทะเลหมอกคือที่
กม.33
เราสามารถชมทะเลหมอกได้แม้กระทั่งนั่งอยู่ในรถ
จุดชมวิว
ชมทะเลหมอกที่ว่านั้นเป็นดังภาพข้างล่างครับ
จากจุดนี้ขับต่อไปอีก
3 กม. ก็จะถึงทางตัน
เป็นจุดสิ้นสุดถนนที่ กม.36
ที่จุดสุดถนนจะมีลานจอดรถที่บดอัดด้วยหินคลุกลาดยางมะตอยใช้เป็นที่จอดรถได้ประมาณ
10 กว่าคน จอดรถกันทำไม
จุดนี้เป็นจุดปากทางเข้าไปสู่น้ำตกทอทิพย์
และทางไป KU แค้มป์
หากใครจะไปเที่ยวสถานที่ดังกล่าวก็จะต้องนำรถมาจอดทิ้งไว้ที่จุดนี้
ไม่มีเจ้าหน้าที่คอยดูแลให้แต่คาดว่าคงไม่หาย
น้ำตกทอทิพย์
ต้องเดินจากลานจอดรถ
กม.36 เข้าไปอีก 4.5 กม.
ทางเดินค่อนข้างลำบาก ทางชัน
ทากเยอะ สภาพน้ำตกเป็นน้ำตก 9
ชั้น
เหมาะที่จะไปเที่ยวในฤดูฝนเพราะน้ำเยอะน้ำตกสวย
KU
แค้มป์ จากลานจอดรถเดินเข้าไปอีก 4.5
กม.
ช่วงแรกจะเดินเส้นทางเดียวกันกับเส้นน้ำตกทอทิพย์
พอถึงครึ่งทางให้แยกขวาตัดลงสู่ต้นน้ำเพชร
KU แค้มป์คือต้นแม่น้ำเพชร
ที่นี่มีจุดกางเต็นท์และมีลำน้ำเพชรให้ได้ลงเล่นน้ำ
ทากเยอะ การเดินทางเข้าไป KU
แค้มป์จะต้องมีเจ้าหน้าที่นำทางเข้าไป
ไม่งั้นจะไม่อนุญาตให้เข้า
ที่นี่อาจจะพบกับพี่ใหญ่ที่อาจจะมาสร้างความเสียหายกับแค้มป์ได้
ยอดเขาพระเนินทุ่ง
เป็นยอดเขาที่อยู่โดดเด่นท่ามกลางป่าเขาที่สลับซับซ้อน
ยอดเขาพระเนินทุ่งสูง 1,207 เมตร
เมื่ออยู่บนนี้จะสามารถชมทะเลหมอกได้สวยงามมาก
เส้นทางเข้าสู่ยอดเขาพระเนินทุ่งต้องแยกเข้าไปจากจุดตรวจที่
กม.30
ข้างบนไม่มีน้ำจึงเป็นอุปสรรคสำหรับการไปสัมผัสความงดงามบนยอดเขาแห่งนี้
การเข้าไปพักแรมที่ยอดเขาพระเนินทุ่งจะต้องมีเจ้าหน้าที่ที่รู้จักเส้นทางนำทางเข้าไปด้วยทุกครั้ง
ใช้เวลาเดินประมาณ 6 ชม.
น้ำตกปราณบุรี
อยู่ทางฝั่งถนนด้านบ้านกร่างแค้มป์
ต้องเดินเข้าไปจากจุดบ้านกร่างแค้มป์ไปทางทิศตะวันตก
ประมาณ 6 กม.
ต้องมีเจ้าหน้าที่นำทางเข้าไปด้วย
น้ำตกปราณบุรีมีทั้งหมด 5
ชั้น เป็นน้ำตกชั้นเล็กๆ
มีลักษณะสวยงามเฉพาะตัวในช่วงฤดูฝน
การเดินทางค่อนข้างลำบาก
น้ำตกแม่สะเรียง
มีทั้งหมด 3 ชั้น
เป็นน้ำตกสายเล็กๆ
แต่สภาพโดยรอบยังคงสภาพป่าเขาอุดมสมบูรณ์
ใช้เวลาเดินทางจากที่ทำการหน่วยบ้านกร่าง
ไปกลับ 3 วัน 2 คืน
ถ้ำหัวช้าง
อยู่ห่างจากที่ทำการหน่วยบ้านกร่างไปทางทิศตะวันออกประมาณ
1 กม.
เดินเท้าแยกจากเส้นทางเข้าไปประมาณ
300 เมตร
ลักษณะถ้ำเป็นถ้ำหินปูน
มีหินงอกหินย้อยคล้ายหัวกะโหลกช้าง
เขาปะการัง
เป็นภูเขาหินปูนสีเทาอมน้ำเงิน
มีหน้าผาสูง
สามารถปีนป่ายขึ้นไปชมทิวทัศน์ที่สวยงามบนยอดเขาได้
และบางครั้งอาจจะพบเห็นสัตว์ป่าที่ออกมาหากินตามทุ่งหญ้าเชิงเขา
และยังเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของลิงเสน
ระยะทางเดินเท้าจากหน่วยเข้าไปประมาณ
3 กม.
ริมแอ่งแค้มป์
เป็นลานกางเต็นท์ริมอ่างเก็บน้ำแก่งกระจานที่อยู่เบื้องล่าง
อยู่ใกล้ๆ ที่ทำการอุทยาน
มีลานกางเต็นท์ไว้ให้นักท่องเที่ยวได้ไปตั้งแค้มป์พักแรมที่ริมอ่างเก็บน้ำ
ได้สัมผัสกับบรรยากาศธรรมชาติตอนเช้าที่สดชื่น
สะดวกที่จะพาครอบครัวไปพักผ่อนเพราะสะดวกสบายรถเข้าถึง
เที่ยวตามเกาะต่างๆ
ในอ่างเก็บน้ำแก่งกระจานและตั้งแค้มป์พักแรมบนเกาะ
อ่างเก็บน้ำแก่งกระจานมีเกาะเล็กๆ
มากมาย
เกาะเหล่านี้เกิดมาจากภูเขาที่ถูกน้ำในเขื่อนท่วมจนเกือบมิด
เหลือไว้เพียงเนินดินให้เราได้เห็นเป็นเกาะต่างๆ
มากมายกระจายอยู่ในอ่างเก็บน้ำ
เกาะต่างๆ
เหล่านี้บางเกาะมีชายหาดและมีพื้นที่ราบเหมาะสำหรับการตั้งแค้มป์พักแรมกับหมู่คณะ
การไปตั้งแค้มป์พักแรมบนเกาะในอ่างให้ติดต่อเรือที่ริมอ่างซึ่งมีมากมายเกือบทุกบ้าน
เรือที่ใช้เป็นเรือหางยาวขนาดใหญ่ปลอดภัย
เขาคิดค่าเช่าเที่ยวละ 600 บาท
นั่งชมทิวทัศน์ในอ่างแล้วแวะตั้งแค้มป์พักแรม
1-2 คืน เตรียมอาหารไปให้พร้อม
แล้วนัดให้เรือมารับกลับ
ภาพแค้มป์พักแรมบนเกาะเล็กๆ
ในอ่างเก็บน้ำ
ที่นี่มีกิจกรรมหลายอย่างที่น่าทำเช่น
ลงเล่นน้ำ
บริเวณที่เห็นเป็นหาดทรายกรวดราบเรียบไม่เป็นอันตราย
บางท่านก็ตกปลาทางด้านทิศตะออกจุดนี้มีปลากระทิงมากและตัวใหญ่ๆ
หรือจะเช่าเรือทั้งวัน
เมื่อเขามาส่งเราที่เกาะแล้วก็ให้เขาอยู่กับเราเลย
ตอนเช้าก็ออกไปตกปลาตามเวิ้งน้ำต่างๆ
ตามอ่าวเล็กแคบๆ
ของบางเกาะจะมีปลาชะโดชุกชุม
ปลาชะโดที่นี่ตัวโต 5-7 กก
ใหญ่มากๆ ขนาด 10 กก
กว่าก็เยอะ หากไม่อยากจะตกปลาแต่ชอบทานปลาก็สามารถโบกซื้อปลาจากเรือชาวบ้านที่จะมาเลาะตาข่าย
(
เก็บปลาที่ติดตาข่ายที่ดักไว้
) ก็ได้
ส่วนใหญ่จะเป็นปลานิลตัวใหญ่ๆ
และปลาหมอแปะ
สนนราคาก็ไม่แพง สดๆ
จากแก่งกระจาน หรือหากมีเรือ ในช่วงเย็นๆ
ให้เขาพาไปหาซื้อปลาตามหมู่บ้านริมอ่าง
ที่นั่นจะมีปลาขาย
เป็นตัวใหญ่ๆ เป็นๆ
ทั้งปลาช่อน ปลาบู่
และอีกหลายชนิด
ได้บรรยากาศของชนบทริมอ่างดีเหมือนกัน
นั่งเรือชมวิวทิวทัศน์ต้นลำน้ำ
เที่ยวแบบนี้เป็นที่นิยมกันมาก
ก็คือการนั่งเรือหางยาวขนาดใหญ่เพื่อชมบรรยากาศในอ่าง
ถ้าไปเป็นคณะก็เหมาเป็นเที่ยวได้
เที่ยวละ 600-800 บาท
หากไปน้อยคนเขาจะคิดเป็นรายหัว
ราคาตกลงเอา การติดต่อเรือ
เมื่อไปถึงหมู่บ้านริมอ่างเก็บน้ำ
ท่านสามารถสอบถามได้ทุกที่เพราะแต่ละบ้านก็จะมีเรือไว้บริการนักท่องเที่ยว
หรือไม่ก็จะมีเจ้าของเรือเดินมาสอบถามเช่าเรือ
ขับรถกินลมชมสันเขื่อน
หากไม่อยากยุ่งยากเรื่องการเที่ยว
ท่านสามารถขับรถชมแนวสันเขื่อนได้
ถูกใจมุมไหนก็จอดรถถ่ายรูป
พอเบื่อที่จะชมแล้วก็ขับเข้าไปในหมู่บ้านใกล้ๆ
กับที่ทำการอุทยานฯ
แถวนี้จะมีบ้านพักหลายแห่งทั้งราคาประหยัดและราคาสูง
เลือกได้ตามรสนิยมของแต่ละท่าน
สภาพอ่างเก็บน้ำแก่งกระจาน
ถ่ายจากแนวสันเขื่อน
ข้อมูลเขื่อนแก่งกระจาน
|