กลัวเมารถ
อันนี้เป็นความกลัวที่ไม่ได้สร้างความเสียหายอะไรเลย เพียงแต่อาจจะทำให้เป็นกังวล มืนศีรษะหมดสนุก เป็นอาการเฉพาะบุคคล ป้องกันได้ และ แก้ไขได้ไม่ยาก
พอพูดถึงเส้นทางแม่ฮ่องสอน 1864 โค้ง เพียงแค่นึกถึงก็เมาซะแล้ว อย่าเพิ่งกังวลมากมายขนาดนั้น เส้นทางแม่ฮ่องสอนไม่ได้น่ากลัวขนาดนั้น โค้งเยอะก็จริงอยู่แต่ใช่ว่าจะต้องเมากันทุกคน หรือเมากันทุกทริป บางช่วงโค้งมาก บางช่วงก็โค้งน้อย ช่วงที่เสี่ยงต่อการเมามากที่สุดคือวันสุดท้าย ช่วงเวลาเวลา 8.00 9.00 น. เพราะโค้งถี่และเหวี่ยงทำให้เมาง่าย แต่ก็มีเพียงบางท่านเท่านั้นที่เมา
ช่วงคืนแรกของวันเดินทางก็ไม่เมาเพราะรถผ่านเส้นทางที่คดไปคดมาในช่วงที่ทุกคนหลับ
ช่วงเช้าของวันแรกก็ไม่มีปัญหา ทางช่วงนี้โค้งกว้างไม่ค่อยมีใครเมา นานๆ จะมีสักครั้ง
ช่วงบ่าย ระหว่างที่เดินทางเข้าตัวเมืองแม่ฮ่องสอน ช่วงนี้ก็โค้งเยอะ
แต่ส่วนใหญ่ก็หลับสลบไสลเพราะเหนื่อยจากการเที่ยวชมทุ่งบัวตองที่ต้องเดินขึ้นดอยและตากแดด ช่วงนี้ก็ไม่ค่อยมีใครเมา
วันที่สอง ช่วงเช้าที่ขึ้นปางอุ๋งซึ่งเป็นทางขึ้นเขาคดเคี้ยวแต่ก็ขึ้นตอนตีห้ากว่า ก็หลับอีก ไปตกใจตื่นตอนรถถึงปางอุ๋งแล้ว ขากลับก็ไม่เมาเพราะจอดเที่ยวเป็นช่วงๆ นั่งรถไม่นานเท่าไรก็แวะ แวะบ้านรักไทย แวะน้ำตกผาเสื่อ แวะภูโคลน
ช่วงบ่าย ยิงยาวโค้งเยอะ แต่ก็ไม่เมาเพราะส่วนใหญ่หลับ อ่านแล้วคงจะสงสัยว่าอะไรกันมีแต่หลับๆๆ แล้วมาเที่ยวอะไรกัน ตอนแวะที่เที่ยวก็เที่ยว ตอนเดินทางก็หลับ วิวก็สวยแต่คนก็ง่วงจึงหลับ ต้องลองมาดูสมการทางคณิตศาสตร์ของแม่ฮ่องสอนกันก่อน อวก + หลับ = แม่ฮ่องสอน เห็นสูตรนี้แล้วก็จะเข้าใจ
ช่วงบ่ายวันที่สองไม่ต้องกลัวเมา เที่ยวไปแวะไป เส้นทางขึ้นเขารถวิ่งช้า ผ่านฉลุยยังไม่เคยมีใครเมา
วันที่สาม ช่วงเช้าไปชมพระอาทิตย์ขึ้นที่ห้วยน้ำดัง เป็นเส้นทางขึ้นเขาคดเคี้ยวน่าเมาแต่ไม่เมาเพราะทุกคนหลับ ( อีกแล้ว ) เพราะต้องออกเดินทางกันแต่เช้าเพื่อชมพระอาทิตย์ขึ้นและชมทะเลหมอก รถวิ่งออกจากรีสอร์ทยังไม่ถึง 5 กิโลเมตรก็หลับแล้ว ช่วงนี้ไม่เมา ฟันธง
ออกจากห้วยน้ำดัง ช่วงนี้เป็นทางลงเขาคดเคี้ยว รถเหวี่ยงไปมา โอกาสเมารถสูงที่สุดของเส้นทาง ปกติก็จะเมากันช่วงนี้
ประมาณ 8.40 น. +/- 5 นาที แต่ถ้าพ้นเวลา 9.00 น. ไปแล้วก็จะไม่เมา
ถึงแม้ช่วงนี้จะเมาง่ายแต่ถ้ามาเที่ยวกับทัวร์ดอยแล้วไม่ต้องกลัว
เราคลุกคลีกับเส้นทางภูเขามาตลอดจึงมีความเชี่ยวชาญและมีคำแนะนำดีๆ มาบอกกัน
วิธีแรก ใครรู้ตัวว่าเมาง่าย ทานยาแก้เมาไว้เลย ยามีแจก รับประทานได้ไม่อั้น เป็นยาแก้เมารถที่เป็นมาตรฐานทั่วไป หากใครแพ้ง่าย ทานแล้วเบลอ ก็เตรียมยาแก้เมาเฉพาะส่วนตัวมาก็จะดีมาก
วิธีที่สอง
ท่านที่รอลุ้นว่าเมาไม่เมาไม่ทานยา ก็ต้องนั่งมองวิวออกไปนอกรถ มองไปไกลๆ อย่ามองในรถ อย่ามองหน้ากันเอง รถจะโยกซ้ายโยกขวาก็จะรู้จังหวะ นอกจากไม่เมาแล้วยังเพลินอีก อาจจะชอบ
วิธีที่สาม ไม่ยอมทานยา ไม่ชอบทานยา ก็ลองใช้โกเอี้ยปิดที่สะดือก็ได้ผล ปิดก่อนเมา อย่าเมาแล้วปิด ไม่ทันการณ์
วิธีที่สี่
ไม่ต้องทานยา ไม่ต้องกลัวเมา วิธีง่ายๆ ใช้ถุงกร๊อปแก๊ปใบใหญ่หน่อยแผ่ออกให้ถุงกว้างสุด จากนั้นก็เอาหูซ้ายของถุงกร๊อปแก๊ปคล้องกับหูข้างซ้ายของเรา
หูขวาของถุงกร๊อปแก๊ปคล้องกับหูขวาของเรา
เสร็จแล้วก็อ้าปากถุงให้กว้าง คล้องไว้อย่างนั้น แล้วก็นั่งชมวิวสบายไม่ต้องกลัวเมา ถ้าได้ผลยังไงก็บอกกันบ้าง วิธีนี้เป็นความลับนะครับอย่าเปิดเผยให้ใครรู้ว่าได้เทคนิคชั้นยอดนี้มาจากทัวร์ดอยเดี๋ยวเขาจะลอกเลียนแบบ
กลัวไม่สวย กลัวปางอุ๋งไม่มีหมอก
อันนี้ขึ้นอยู่กับธรรมชาติล้วนๆ ไม่เกี่ยวกับกลัวโค้งนะครับ สวยน่ะสวยอยู่แล้วแต่จะสวยมากสวยน้อยก็แล้วแต่สถานการณ์ ถึงทริปจะไม่สวยแต่คนที่นั่งข้างๆ ก็สวยนะครับ
กลัวไกด์
จะกลัวทำไมล่ะครับ ไกด์ทัวร์ดอยมีแต่คนน่ารัก ( ยกเว้นผู้เขียน ) ถึงแม้บางคนจะไม่ค่อยจะน่ารักแต่ก็ใจดี มีความเป็นมิตรสูง ( อันนี้รวมผู้เขียน ) แต่โดยรวมแล้วไกด์ของเราก็โอเค มีความเป็นมิตรสูง อารมณ์เดียวกับนักท่องเที่ยว
คือ ชอบท่องเที่ยว ชอบเดินทาง อยากเห็นความงดงามของธรรมชาติ คนคอเดียวกันไปด้วยกันก็น่าจะเวิร์คนะครับ
ไม่กลัวโค้งแล้วนะครับ ถึงตอนนี้ถ้ายังกลัวก็อยู่บ้านเปิดเวบทัวร์ดอยดูดีกว่าครับ เดี๋ยวจะเก็บภาพบรรยากาศของทริปมาให้ชมกัน
แต่ถ้าคิดว่าสักครั้งหนึ่งในชีวิตจะต้องไปแม่ฮ่องสอนสักครั้งก็น่าจะตัดสินใจไปปีนี้นะครับ เพราะปีนี้ยังหนุ่มยังสาวกว่าปีหน้า หรือพูดง่ายๆ ก็คือว่า ปีหน้าแก่ลงกว่านี้ และค่าใช้จ่ายก็แพงกว่านี้เพราะน้ำมันขึ้นราคาแบบก้าวกระโดด
แล้วพบกันนะครับ
|